นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกว่า การที่จีนเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดนั้น จะนำประโยชน์มาสู่สังคมและเศรษฐกิจ และจะช่วยสนับสนุนความพยายามของประเทศทั่วโลกในการลดโลกร้อน
“การที่จีนตัดสินใจใช้มาตรการรับมือกับปัญหาโลกร้อนนั้น ไม่ได้มีผลกระทบด้านบวกต่อจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกประเทศทั่วโลกด้วย” นายไบรอลกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวหลังจากที่ IEA เปิดเผยรายงานฉบับใหม่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ IEA เผยแพร่รายงานหัวข้อ “An Energy Sector Roadmap to Carbon Neutrality in China” เพื่อทำการสำรวจแนวทางที่จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงเหลือศูนย์ ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และช่วยเหลือประชาชนให้มีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ
“โรดแมปนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ว่า จีนสามารถปูทางไปสู่การสร้างอนาคตด้านพลังงานที่มีความยั่งยืน มั่นคง และครอบคลุมมากขึ้น เรามองว่าจีนเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดและมีบทบาทเป็นผู้นำในความสำเร็จของโลก ตั้งแต่พลังงานแสงอาทิตย์ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้า”
ผู้อำนวยการ IEA กล่าว
รายงานของ IEA ระบุว่า ภาคพลังงานเป็นหนึ่งในแหล่งสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีน ซึ่งทำให้นโยบายด้านพลังงานได้กลายมาเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านไปสู่การลดคาร์บอนลงเหลือศูนย์ โดยจีนตั้งเป้าว่าจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในปริมาณสูงสุดก่อนถึงปี 2573 และจะบรรลุเป้าหมายในการสร้างสมดุลคาร์บอน (carbon neutrality) โดยจะลดการปล่อย CO2 ลงเป็นศูนย์ให้ได้ก่อนปี 2603
“เป้าหมายดังกล่าวจะสร้างโอกาสครั้งใหญ่ในตลาดพลังงานของจีน อีกทั้งจะทำให้การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลดลง และส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานสะอาดให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง”
ผู้อำนวยการ IEA กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 64)
Tags: IEA, ก๊าซเรือนกระจก, จีน, พลังงานสะอาด, ฟาตีห์ ไบรอล, สำนักงานพลังงานสากล