แพทย์หญิงโรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ประกาศว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในกลุ่มสตรีมีครรภ์พุ่งสูงแตะ 21 รายในเดือนส.ค. ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา พร้อมสนับสนุนให้สตรีมีครรภ์ในสหรัฐเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเร็ว
จนถึงขณะนี้ สตรีมีครรภ์กว่า 120,000 รายในสหรัฐได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยพญ.วาเลนสกีเผยว่า สตรีมีครรภ์กว่า 5,000 รายเข้าร่วมในโครงการวัคซีนของ CDC และในจำนวนนี้ ราว 50% ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์, 44% ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นา และ 5% ได้รับวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
พญ.วาเลนสกีระบุว่า ขณะนี้มีสตรีมีครรภ์ในสหรัฐเพียง 31% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ถึงแม้ว่าสตรีมีครรภ์จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการล้มป่วยด้วยอาหารหนักเมื่อติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ก็ตาม
ทั้งนี้ พญ.วาเลนสกีออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว หลังจาก CDC ประกาศคำแนะนำแก่สตรีมีครรภ์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและล้มป่วยด้วยอาการหนัก
“เมื่อเทียบกับสตรีมีครรภ์ที่ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงมากกว่าการคลอดก่อนกำหนด หรือมีทารกเสียชีวิตระหว่างคลอด” พญ.วาเลนสกีกล่าวระหว่างนำเสนอข้อมูลต่อสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐ “ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โควิด-19 เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสำหรับทั้งสตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 64)
Tags: CDC, COVID-19, วัคซีนต้านโควิด-19, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ, สหรัฐ, โควิด-19