นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลต้องกู้เงิน เพราะการปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าว รัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นไปที่รายได้เพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะการรณรงค์ให้เลิกสูบบุรี่ ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญในเรื่องนี้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาโครงสร้างภาษีบุหรี่ของไทยอาจยังไม่ค่อยถูกต้อง ทำให้มีการแบ่งตลาดบุหรี่ถูกกับบุหรี่แพง ส่งผลให้บุหรี่ในประเทศขายไม่ออก เพราะโดนบุหรี่ต่างประเทศแทรกแซง ซึ่งกระทบกับการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ที่ส่วนแบ่งการตลาดบุหรี่ลดลง ทำให้ต้องลดการรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกร ทำให้ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังต้องของบประมาณเพื่อชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกใบยา ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังได้ได้กำชับให้กระทรวงการคลังไปดูเรื่องการสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกใบยาปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นทดแทน เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวด้วย
“เรื่องโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ครม.ได้มีการพิจารณาไปแล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่สุขภาพของประชาชนมากกว่าเรื่องรายได้ จึงเป็นที่มาว่า ถ้าจะให้คนเลิกสูบบุหรี่ ราคาก็เป็นกลไกหนึ่งที่เป็นตัวกำหนด โดยราคาขายปลีกที่เพิ่มขึ้น จะมีผลต่ออัตราการบริโภคบุหรี่ให้ปรับลดน้อยลงได้ โดยการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ในครั้งนี้ ครม. ได้มีการพิจารณาในหลายมิติ ดูว่าอัตราไหนเหมาะสมและเป็นธรรมที่สุด แม้ว่าอยากจะให้มีอัตราเดียวก็ตาม”
รมว.คลังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 64)
Tags: กรมสรรพสามิต, กระทรวงการคลัง, ครม., บุหรี่, ภาษีบุหรี่, ภาษีสรรพสามิต, ยสท., อาคม เติมพิทยาไพสิฐ