ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจ่อรักษาสถิติ “อาถรรพ์หุ้นตกเดือนกันยายน”

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ และมีแนวโน้มที่จะยังคงรักษาสถิติในการปรับตัวลงในเดือนก.ย.ของทุกปี

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 1.63% เมื่อวานนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2.04% และดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลง 2.83% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

หากพิจารณานับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ต่างก็ร่วงลง 3% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงมากกว่า 4.5% และจากการที่เหลือวันทำการซื้อขายอีกเพียง 2 วันในสหรัฐ ทำให้เป็นเรื่องยากที่ดัชนีทั้ง 3 จะสามารถพลิกดีดตัวกลับมาเป็นบวกในเดือนก.ย.

สถิติในอดีตบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก “Stock Trader’s Almanac” ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2493 เดือนก.ย.เป็นเดือนที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี และนับตั้งแต่ปี 2488 ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเฉลี่ย 0.56% ในเดือนก.ย. ขณะที่เดือนก.พ.เป็นอีกหนึ่งเดือนที่ดัชนี S&P 500 มักปรับตัวลง

นักวิเคราะห์เตือนว่า หลังจากปรับตัวขึ้น 7 เดือนติดต่อกัน ขณะนี้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกำลังมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการปรับฐานจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้, ความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ, การที่สภาคองเกรสอาจให้การอนุมัติการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมทั้งความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

นางลิซ แอน ซอนเดอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Charles Schwab ระบุเตือนว่าตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มปรับฐาน 3-4% ในเดือนนี้

นอกจากนี้ สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมักดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย. โดยเฉพาะหากเป็นปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทำให้ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเฉลี่ย 0.73% ในเดือนก.ย.ของปีดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top