พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัดลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ ศบค.เป็นห่วง คือ จังหวัดชายแดนใต้ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และกระทรวงสาธารณสุขสรุปความเห็นว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20-49 ปี แต่กลุ่มที่มีอาการป่วยหนักและเสียชีวิตเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งมีโรคประจำตัว จึงต้องเน้นย้ำไปยังคนวัยแรงงาน วัยหนุ่มสาวที่อาจจะติดเชื้อไม่มีอาการไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่มีโรคประจำตัวก็อาจจะทำให้บุคคลในกลุ่มนี้ป่วยหนักและเสียชีวิต จึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดให้เร่งระดมการฉีดวัคซีนให้ได้ในกลุ่มเป้าหมายด้วย
ขณะที่กรมควบคุมโรครายงานว่าการติดเชื้อยังอยู่ในชุมชนที่มีการรวมกลุ่ม เช่น ที่โรงเรียนนายสิบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหลายจังหวัดยังมีการรายงานการติดเชื้อในล้งผลไม้ ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลไม้ มีคนงานไปเก็บผลไม้ และมีแรงงานต่างด้าวเกิดการสัมผัสใกล้ชิด รวมทั้งโรงงาน และต้องเน้นย้ำทุกจังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะในงานศพ ซึ่งพบที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดสงขลา จึงขอให้ผู้จัดรักษามาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด งดการจัดเลี้ยง การรับประทานอาหารร่วมกัน เพราะจะเป็นจุดอ่อน เนื่องจากต้องเปิดหน้ากากอนามัย ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำกับติดตามและกวดขันให้ทุกงานศพให้มีการเฝ้าระวังมาตรการสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด
นอกจากนั้น ในวันที่ 4 ต.ค.ที่เป็นเทศกาลถือศีลกินเจ จึงขอเน้นย้ำให้จังหวัดตรวจสอบมาตรการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเจ ผู้ประกอบการจะต้องมีการจัดสถานที่อย่างเหมาะสม และมีมาตรการเฝ้าระวังการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด เพื่อให้โรงเจปลอดโควิด ให้พนักงานฉีดวัคซีน มีการตรวจหาเชื้อ ATK เพื่อความปลอดภัยของผู้ไปร่วมงาน
พร้อมย้ำว่า ในช่วงการปรับอยู่ให้ได้กับวิถีใหม่ ทางผู้ประกอบการ ผู้จัดงานหรือประชาชน ต้องช่วยกันจัดงานวิถีใหม่ ทั้งงานศพ งานประเพณี งานแต่งและงานบวช ซึ่งในระยะยาวคงไม่สามารถรอให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ได้ ถึงจะจัดงานได้ แต่จะต้องมาหาวิธีว่า จะจัดอย่างไรที่จะยังคงวัฒนธรรมประเพณีไว้ แต่ขณะเดียวกันจะต้องปลอดภัย ทั้งเจ้าภาพและแขกผู้มาร่วมงานด้วย จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้กับวิถีชีวิตแนวใหม่
พญ.อภิสมัย ยังเปิดเผยว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ฝากขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งผู้ประกอบการต่างๆ ที่ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีและประชาชนก็เข้าไปใช้บริการสถานบริการที่เปิดและให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ความพยายามตรงนี้อาจจะเกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานราชการ ซึ่งบางครั้งในหน่วยงานราชการบางส่วนมีการกำหนดเป้าหมาย 100% อาจจะไปขัดแย้งกับเป้าหมายของอีกกระทรวงหนึ่ง เช่น ถ้ากระทรวงสาธารณสุขป้องกันไม่มีการติดเชื้อด้วยการปิดโรงเรียน ซึ่งอาจจะเป็นมาตรการที่ดีที่สุด แต่อาจจะไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องการให้บุตรหลานได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน
เรื่องนี้ ผอ.ศปก.ศบค.ขอให้หน่วยงานราชการช่วยกันบูรณาการงานที่รับผิดชอบ อย่าให้การควบคุมโรคเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง และกระทรวงสาธารณสุขคงจะไม่ใช่หน่วยงานหลักเพียงหน่วยงานเดียวที่ดูแลควบคุมโรค แต่จำเป็นต้องมีกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาดู และกระทรวงคมนาคม เข้ามาดูระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งวัด โบสถ์ มัสยิด หากมีการติดเชื้อก็จะต้องมีกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาร่วมด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 64)
Tags: COVID-19, จังหวัดชายแดนใต้, ณัฐพล นาคพาณิชย์, ยอดผู้ติดเชื้อ, อภิสมัย ศรีรังสรรค์, โควิด-19