กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายงาน “2021 World Oil Outlook” โดยระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ โอเปกคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน แตะที่ระดับ 101.6 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมระบุว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2564 และ 2565 ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ความต้องการใช้น้ำมันดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่เหนือระดับของปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ความต้องการใช้พลังงานและน้ำมันฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 หลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2563 โดยเราคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว” นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกกล่าว
อย่างไรก็ดี โอเปกได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในระยะยาว เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
โอเปกระบุในรายงานคาดการณ์ล่าสุดว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2573 จะอยู่ที่ 106.6 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งลดลง 600,000 บาร์เรล/วันจากระดับของปี 2563 และต่ำกว่าระดับที่โอเปกเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้อยู่ 11 ล้านบาร์เรล/วัน
“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การทำงานทางไกลกำลังกลายเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ของบริษัทเอกชนจำนวนมาก นอกจากนี้ การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในระยะยาวจะถูกจำกัดโดยความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า”
โอเปกระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 64)
Tags: น้ำมันดิบ, ผลกระทบโควิด-19, ราคาน้ำมัน, โอเปก, โอเปกพลัส