นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (JP) กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากโปรตีน (Plant-based Protein) ภายใต้แบรนด์ ‘สุภาพโอสถ’ ที่ใช้พืชวูฟเฟีย (Wolffia Globosa) หรือที่มีชื่อในภาษาไทยว่า “ไข่น้ำ” หรือ “ไข่ผำ” อยู่ในกลุ่มวัชพืชขนาดเล็กที่มีดอก เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์
หลังได้เริ่มทำโครงการวิจัย พัฒนาและแปรรูปพืชวูฟเฟียมาตั้งแต่ปี 63 เพื่อทำฟาร์มต้นแบบสำหรับการเพาะเลี้ยง รองรับการผลิตเชิงอุตสาหกรรม โดยว่าจ้าง บมจ.ซีดีไอพี ประเทศไทย ร่วมกับเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เพื่อศึกษาถ่ายทอดการเพาะเลี้ยงแปรรูปพืชน้ำวูฟเฟียร่วมกัน
อีกทั้ง JP จะนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรเพาะเลี้ยงพืชน้ำวูเฟีย ภายใต้เกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) เพื่อบริหารและสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบ และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย นอกจากนี้บริษัทเตรียมความพร้อมด้านการผลิต การอบแห้ง แปรรูปและบรรจุ รองรับการผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป
ขณะเดียวกัน บริษัทพร้อมใช้โรงงานจังหวัดลำพูนที่มีความสามารถการผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยา (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และทัดเทียมกับมาตรฐานของสหภาพยุโรปและมาตรฐาน GMP สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ดูแลห่วงใยสุขภาพและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงและปลอดภัย
“เรามองว่าพืชวูฟเฟียจะได้ประโยชน์จากเทรนด์การรักสิ่งแวดล้อมซึ่งมุ่งเน้นการลดโปรตีนจากสัตว์ ด้านเทรนด์อาหารสุขภาพก็กำลังได้รับความนิยมหลังจากเกิดช่วงโควิด-19 เราเลยเลือกวิจัยและพัฒนาวูฟเฟีย
อีกทั้งจุดแข็งของวูฟเฟียคือสามารถเป็น Recurring Income ให้กับเกษตรกรได้ ใช้ระยะเวลาในการปลูกและเก็บเกี่ยวไม่นาน รวมไปถึงสามารถปลูกร่วมกับกับพืชเกษตรอื่นได้ ซึ่งถือเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกษตรกรก็จะมีรายได้เข้ามาหลายช่องทางมากขึ้น” นายสิทธิชัย กล่าวในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
ด้านนายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานวิจัยและพัฒนา JP กล่าวว่า กลยุทธ์การทำตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากโปรตีน (Plant-based Protein) ภายใต้แบรนด์ ‘สุภาพโอสถ’ จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์พืชน้ำวูฟเฟีย ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผ่าน Multi-Channel Marketing ทั้งสื่อแพลตฟอร์มออนไลน์ และ Social Media ของบริษัทในทุกช่องทาง
นอกจากนี้ จะจำหน่ายผ่านช่องทาง TV Home shopping, Market place เช่น Shopee, Lazada เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพทั้งจากภายในและภายนอก ซึ่งถ้ามีกระแสตอบรับที่ดีจะต่อยอดไปยังช่องทาง Convenience Store และ Modern Trade ด้วย โดยจะเน้นทั้งกลุ่มลูกค้า B2B , B2C รวมไปถึงลูกค้าในตลาดต่างประเทศด้วย
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมพืชน้ำวูฟเฟีย โดยกระจายอยู่ในทุกภาค โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ตามแหล่งน้ำนิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสระน้ำหรือบ่อน้ำขนาดเล็ก ซึ่งนับเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ของไทย เนื่องจากวูฟเฟียมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีนสูงถึง 2 เท่าของถั่วเหลืองเมื่อรับประทานในปริมาณแคลอรี่ที่เท่ากัน อีกทั้งมีกรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซียม เหล็ก สังกะสี และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณสูง มีไขมันต่ำและไฟเบอร์สูง ช่วยระบบทางเดินอาหาร ป้องกันกระดูกพรุนและยังช่วยบำรุงประสาท
นอกจากนี้วูฟเฟียยังไม่มีกลิ่นและไม่มีรสชาติสามารถนำมาผสมกับเมนูอาหารต่าง ๆ และรับประทานได้ง่าย
ทั้งนี้ ภาครัฐเห็นโอกาสการนำพืชวูฟเฟียมาเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่อยู่ในกระแสความนิยมจากผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของอาหาร โดยประเมินมูลค่าตลาด Plant-based Food ทั่วโลกอยู่ที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐและมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 10 ปีข้างหน้า
“เราจะสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรไทยเพาะปลูกพืชน้ำวูฟเฟีย เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารโปรตีนจากพืช หรือ Plant-base Food รองรับเทรนด์การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลก โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้ง Supply Chain ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อให้ไทยก้าวสู่การเป็นฮับผลิตอาหาร Plant-base Food เพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก”
นายอลงกรณ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 64)
Tags: JP, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สิทธิชัย แดงประเสริฐ, อลงกรณ์ พลบุตร, โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี, ไข่ผำ