นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) กล่าวว่า บริษัทยังคงมั่นใจการปล่อยสินเขื่อในปี 64 ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาท แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อยังไม่ได้ปล่อยสินเชื่อไปมาก จากผลกระทบของโควิด-19 แต่มองว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้หลังจากภาครัฐคลายล็อกดาวน์เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศทรงตัว และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีความต้องการใช้สินเชื่อมากขึ้นเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนยอดสินเชื่อของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมาย
สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อกว่า 75% ส่วนอีก 25% มาจากสินเชื่อส่วนบุคคล แต่บริษัทยังมองหารายได้อื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้เสริมจากดอกเบี้ยเข้ามาให้เพิ่มขึ้น เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมรับประกันภัยต่างๆ ซึ่งบริษัทเริ่มดำเนินการในปีนี้ อีกทั้งบริษัทยังศึกษาธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากฐานลูกค้าในปัจจุบัน รวมถึงเปิดรับพันธมิตรรายใหม่อื่นๆเข้ามาร่วมกับธุรกิจ
“เรายังมองหาโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจในสถานการณ์ที่แม้ว่าจะเป็นวิกฤตอย่างปัจจุบัน ล่าสุดบอร์ดมีมติให้ศึกษาการสร้างรายได้ในด้านอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างสมดุลของโครงสร้างรายได้ให้มากขึ้น รวมถึงการเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่สนใจจะเข้าร่วมทำธุรกิจในรูปแบบต่างๆ”
นายอนุวัตร กล่าว
บริษัทได้ทำการศึกษากับกลุ่มผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตร โดยล่าสุดได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) กับกลุ่มพันธมิตรเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินที่เกาะเต่า จังหวัดชุมพร เพราะบริษัทเล็งเห็นว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับสู่สภาวะปกติ ภาคการท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างโอกาสให้อย่างมากเพราะการท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกและจากคนไทย
สำหรับการศึกษาในเรื่องของการสร้างสนามบินในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทที่มีศักยภาพ มีความพร้อมและต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยบริษัทฯในฐานะผู้ให้บริการทางด้านสินเชื่อก็พร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้า หรือจะเป็นพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจรองรับสถานการณ์วิกฤติที่เชื่อว่าจะดีขึ้นหลังจากนี้
“เกาะเต่าเป็นอีก 1 ในจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงนักท่องเที่ยวไทย ปัจจุบันการเดินทางไปยังเกาะเต่า ใช้เวลาค่อนข้างนาน การเดินทางไม่ค่อยสะดวกมากนัก หากมีสนามบินจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น และเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจได้อีกด้วย โดยคาดว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดจะสามารถใช้สนามบินได้ประมาณ 1 ปีหลังจากนี้”
นายอนุวัตร กล่าว
นอกจากนี้ในกลุ่มเกษตรกรยังเป็นกลุ่มที่มีโอกาสสร้างการเติบโตให้กับบริษัท เพราะปัจจุบันจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนทำงานที่มีความรู้ ความสามารถ ที่เริ่มเห็นทิศทางที่สนใจจะกลับไปทำงานทางด้านการเกษตร การเพิ่มมูลค่าให้แก่พืชผลทางการเกษตร ต่อยอดจากสิ่งที่คนรุ่นพ่อแม่ได้ทำมา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่นคงทางด้านการเงิน มีแนวคิดในการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตซึ่งจะช่วยให้มีรายได้จากการทำการเกษตรได้มากขึ้น เป็นโอกาสที่บริษัทจะสามารถต่อยอดการปล่อยสินเชื่อเข้าไปเพิ่มเติมได้
อย่างไรก็ตามในด้านการควบคุมคุณภาพหนี้ของลูกค้าในพอร์ตของบริษัทวางเป้าหมายควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 5% จากที่ใครึ่งปีแรกที่ผ่านมา NPL ของบริษัทอยู่ที่ 1.13% ขณะที่ปีนี้บริษัทจะมีหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน 3 ชุด มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทยังไม่สามารถจ่ายคืนได้เต็มจำนวน แต่จะขอขยายเวลาการชำระคืนออกไป และจากสถานการณ์ปัจจุบันบริษัทมองว่าไม่เหมาะสมที่จะออกหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการประเมินความต้องการกระแสเงินเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 64)
Tags: GCAP, จี แคปปิตอล, สินเชื่อ, หุ้นไทย, อนุวัตร โกศล