นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมพายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 26 จังหวัด โดยเฉพาะ จังหวัดพิจิตร, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, พระนครศรีอยุธยา, สุโขทัย, ชัยนาท, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, ขอนแก่น, ลำปาง, ลำพูน และอุบลราชธานี ซึ่งทำให้บ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีความเดือดร้อนในการดำรงชีพ
ธนาคารออมสินจึงออกมาตรการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติและผู้ประกอบการในพื้นที่ ด้วยวงเงินกู้ฉุกเฉิน ที่มีหลักเกณฑ์เงื่อนไขผ่อนปรน และอัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับซ่อมแซ่มที่อยู่อาศัย และซื้อสิ่งของจำเป็น ประกอบด้วย
1. สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเงินกู้ฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วม หรือภัยพิบัติ ให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท โดยปลอดชำระเงินงวดใน 3 เดือนแรก
2. สินเชื่อเคหะ สำหรับลูกค้าเดิมหรือประชาชนทั่วไป ที่มีบ้านพัก หรือที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และมีความจำเป็นต้องซ่อมแซม ให้กู้วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีแรก 0%
3. สินเชื่อไทรทองอเนกประสงค์ เพื่อซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านทดแทนที่ได้รับความเสียหาย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 300,000 บาท โดยใช้บ้าน ที่ดิน สวนไร่นา คอนโด ที่ปลอดภาระจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ อัตราดอกเบี้ย MRR 1.25 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
และ 4. สินเชื่อธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าผู้ประกอบการ หรือ SMEs วงเงินให้กู้สูงสุด 10% ของวงเงินกู้เดิมแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.50% ปีที่ 2 เป็นต้นไป เท่ากับ MLR โดยปีแรกชำระแต่ดอกเบี้ยไม่ต้องชำระเงินต้น
นอกจากนั้น ธนาคารออมสินในพื้นที่ได้นำถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็น และน้ำดื่ม ออกไปแจกจ่ายช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนในเบื้องต้นแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 64)
Tags: ธนาคารออมสิน, วิทัย รัตนากร, สินเชื่อฉุกเฉิน, สินเชื่อเคหะ