ผู้บริหารของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงใด ๆ ต่อบรรดาผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท แม้ขณะนี้ได้เลยกำหนดการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 2 งวดแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ทางบริษัทก็ไม่ได้ยื่นหนังสือเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเช่นกัน ซึ่งการไม่ออกมาเคลื่อนไหวใด ๆ ของเอเวอร์แกรนด์นั้น ทำให้ให้บรรดาผู้ถือหุ้นกู้วิตกกังวล และส่งผลให้ราคาหุ้นเอเวอร์แกรนด์ร่วงลงกว่า 6% ในช่วงเช้านี้
เมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยวงเงิน 232 ล้านหยวน หรือราว 35.88 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลเงินหยวนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย.2568 รวมทั้งจ่ายดอกเบี้ยอีกก้อนหนึ่งวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค.2565
นอกจากนี้ เอเวอร์แกรนด์ยังมีดอกเบี้ยที่รอการชำระอีกในวันที่ 29 ก.ย.จำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค.2567
ทั้งนี้ หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้ตามกำหนด ทางบริษัทก็จะมีเวลาอีก 30 วันหลังวันครบกำหนดชำระเพื่อหาทางจ่ายหนี้ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกประกาศว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่กำกับดูแลของจีนได้แจ้งให้เอเวอร์แกรนด์เร่งดำเนินการสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้หยุดชะงักลง โดยให้มีการก่อสร้างจนเสร็จสิ้นโครงการ พร้อมกับกำชับให้ทางบริษัทชำระหนี้หุ้นกู้สำหรับนักลงทุนรายย่อย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้สำหรับหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์
แหล่งข่าวระบุว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทางการจีนและผู้บริหารของเอเวอร์แกรนด์เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่จีนได้แจ้งต่อทางบริษัทว่าควรมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 64)
Tags: หุ้นกู้, อสังหาริมทรัพย์, เอเวอร์แกรนด์, ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป