ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ลงสู่ระดับ 8.1% จากระดับ 8.4% โดยระบุว่าการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้ วิกฤตหนี้สินของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนยังส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนด้วย
ฟิทช์ระบุว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว แต่การที่รัฐบาลออกมาตรการใหม่เพื่อควบคุมบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้น ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว และเป็นสาเหตุให้บริษัทเอเวอร์แกรนด์มาถึงจุดวิกฤต โดยเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการสกัดราคาอสังหาริมทรัพย์ และควบคุมไม่ให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์กู้ยืมเงินมากเกินไป
“ตัวเลขการสร้างบ้านในจีนชะลอตัวลง และแรงกดดันด้านการเงินที่เกิดขึ้นในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์” ฟิทช์ระบุ และกล่าวเพิ่มเติมว่า “การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 10% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน และการชะลอตัวของการทำธุรกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ลุกลามไปยังอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ของจีน”
ฟิทช์ประกาศปรับลดคาดการณ์ GDP ของจีนในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกาได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ปีนี้ของจีนลงสู่ระดับ 8% จากระดับ 8.3% และได้ปรับลด GDP ในปีหน้าลงสู่ระดับ 5.6% จากระดับ 6.2% อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินของบริษัทเอเวอร์แกรนด์, การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และการที่รัฐบาลออกมาตรการควบคุมภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ย. 64)
Tags: GDP จีน, จีน, อสังหาริมทรัพย์จีน, เศรษฐกิจจีน