บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2564 มีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเห็นชอบการแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยขน์ในที่ราชพัสดุ ซึ่งใช้ดำเนินกิจการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. (ข้อตกลงการใช้ประโยชน์ฯ)กับ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และกองทัพอากาศ(ทอ.) ในฐานะผู้ให้ใช้ประโยชน์ตามข้อตกลงการใช้ประโยชน์ฯ และผู้ปกครองดูแลและใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุตามระเบียบกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เพื่อกำหนดระยะเวลาการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับแผนพัฒนาท่าอากาศยาน และเพื่อให้การบริหารจัดการที่ราชพัสดุเกิดมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนเพื่อเป็นการจูงใจในการพิจารณาเข้าร่วมลงทุนของภาคเอกชนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการของท่าอากาศยาน
ทอท.อยู่ในระหว่างนำเสนอ ทย. และ ทอ. ลงนามในข้อตกลงเพื่อแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยชน์ฯ ดังกล่าว ระหว่าง ทอท. กับ ทย.และ ทอ. ในฐานะผู้ทำการแทนกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565
โดยมีท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบ 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต(ทภก.) ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ตั้งอยู่ในที่ราชพัสดุที่อยู่ในความปกครองดูแลและใช้ประโยชน์ของ ทย. และ ทอ. โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และมีกรมธนารักษ์(ธร.) ทำหน้าที่ปกครองดูแลและบำรุงรักษา
เนื่องจากระยะเวลาการใช้ประโยชน์ฯ ในช่วงที่ 1 เป็นเวลา 30 ปี จะครบกำหนดในวันที่ 29 กันยายน 2575 (เหลือเวลาอีกประมาณ 11 ปีนับจากปัจจุบัน) ทอท.จึงได้ขอให้กรมธนารักษ์พิจารณาถึงความเป็นไปได้และแนวทางการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุของ ทอท.ให้เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยขอเริ่มต้นอายุข้อตกลงหรือสัญญาตั้งแต่ปีปัจจุบัน เพื่อให้ระยะเวลามีความต่อเนื่องเพียงพอกับความต้องการในการพิจารณาเข้าร่วมลงทุนของภาคเอกชนเพื่อร่วมพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.
กรมธนารักษ์ได้พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่าสามารถดำเนินการได้โดยต้องอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลาเดิม 50 ปี ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทรวงการคลังได้เห็นชอบร่างแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุสนามบิน จำนวน 6 แห่ง ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาร่างข้อตกลงฯ ฉบับปรับปรุงแก้ไข จำนวน 4 ฉบับ เพื่อแก้ไขกำหนดระยะเวลาจากเดิม 30 ปี (วันที่ 30 กันยายน 2545-29 กันยายน 2575) เป็นมีกำหนดเวลา 19 ปี (วันที่ 30 กันยายน 2545 –29 กันยายน 2564) และจัดทำร่างข้อตกลงฯ ที่จะจัดทำขึ้นใหม่ จำนวน 4 ฉบับ มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี (วันที่ 30 กันยายน 2564 – 29 กันยายน 2594) ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาร่างเรียบร้อยแล้ว
สินทรัพย์ที่ราชพัสดุในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ทอท.ได้ใช้มูลค่าปัจจุบันของค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุขั้นต่ำปี 2565-2594 จำนวนประมาณ 85,447 ล้านบาทซึ่งกรมธนารักษ์ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว โดย ทอท.ได้นำมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 (TFRS 16) เรื่อง สัญญาเช่ามาถือปฏิบัติครั้งแรก ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 โดยรับรู้การเช่าที่ราชพัสดุทั้ง 6 ท่าอากาศยาน
สินทรัพย์ที่ราชพัสดุในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 6 แห่งเป็นสินทรัพย์ที่เป็นสาระสำคัญในการประกอบธุรกิจของ ทอท. การแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยขน์ฯเป็นการปรับแก้ระยะเวลาการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับแผนพัฒนาท่าอากาศยานของ ทอท. ก่อให้เกิดความมั่นคงในสิทธิในการใช้สินทรัพย์ตลอดจนเป็นการจูงใจให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ Non-Aeronautical Revenue เป็นการสร้างโอกาสการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตของ ทอท.ในอนาคต อันจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ ทอท.และผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ ทอท.จะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ในการชำระค่าตอบแทนสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุตามข้อตกลงการใช้ประโยชน์ฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 64)
Tags: AOT, กรมท่าอากาศยาน, กรมธนารักษ์, กระทรวงการคลัง, กองทัพอากาศ, ท่าอากาศยานไทย, สนามบิน