นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามแผนบริหารจัดการน้ำ-การแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ไปตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำ ที่จังหวัดเพชรบุรี

โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางมายังตลาดท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นตลาดและชุมชนเก่าแก่ เพื่อพบปะประชาชนและให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า พร้อมอุดหนุนสินค้าของชุมชน โดยมีข้าราชการในพื้นที่ ส.ส.เพชรบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงมารอต้อนรับ

ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนออกมาต้อนรับ พูดคุย มอบดอกไม้ อาหาร ขนมหวาน ผลทางการเกษตรให้กับนายกรัฐมนตรี พร้อมตะโกนให้กำลังใจและถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ ขอให้ประชาชนมีสุขภาพที่แข็งแรง และขอให้อดทนกับสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ และขอให้ทุกคนรักกัน ซึ่งตนจะทำงานเพื่อประชาชนทุกคน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกับตัวแทนผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองท้องถิ่นที่มาให้การต้อนรับ โดยย้ำว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาให้กำลังใจ ซึ่งเราต้องร่วมมือไปด้วยกัน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น และการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ ก็ให้ฝากผ่าน ส.ส. สิ่งไหนทำได้ก็จะเร่งทำ สิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็ส่งต่อ ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล เพราะการทำงานบางอย่างไม่ง่ายเพราะมีกฎหมายเยอะ

นายกรัฐมนตรี ได้สักการะศาลเทพเจ้ากวนอู ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวท่ายางให้ความเคารพนับถือ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้อธิษฐานขอให้ประเทศชาติปลอดภัย ทำงานสำเร็จเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน และมีแบบแผนเพราะหากแก้ปัญหาแบบเดิมก็จะได้รูปแบบเดิม ซึ่งการแก้ปัญหาเป็นเรื่องยาก แต่ตนจะทำให้กับทุกคน

นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เพชรบุรี (เขื่อนเพชร) เพื่อรับฟังสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และการรายงานภาพรวมการบริหารจัดการน้ำ การรับมือน้ำหลากและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตรวจสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) โดยกล่าวว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้งมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ตั้งใจมารับฟังข้อมูลและรับทราบปัญหาในแต่ละพื้นที่โดยตรง รวมทั้งให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดแผนแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อความมั่นคงทางด้านน้ำในอนาคต โดยให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอและลดผลกระทบในช่วงฤดูน้ำหลากด้วย

นายกรัฐมนตรี กำชับในการเสนอของบประมาณจะต้องเป็นแผนงานที่ทำได้จริง แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมทั้งวางแผนใช้งบประมาณแบบต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการ ส.ส. และประชาชนต้องร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกร ในการปรับเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมการเกษตร สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าให้กับภาคการเกษตรมากขึ้น

สำหรับการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยู่บ่อยครั้ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยควบคุมการระบายน้ำที่เขื่อนเพชรให้ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในอัตรา 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ ที่อำเภอเมือง น้ำส่วนที่เหลือจะถูกผันน้ำเข้าระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างฯ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการลุ่มน้ำเพชรบุรีทั้งระบบ ที่ได้กำหนดแนวทางการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลอ่าวไทย ด้วยการปรับปรุงคลองระบายน้ำ คลองส่งน้ำ และการขุดขยายคลอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top