รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอีกรอบ ขณะที่เมืองเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรียเตรียมพร้อมรับมือเหตุประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากประชาชนไม่พอใจการใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด
ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มอีก 628 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงสุดในปีนี้ และเพิ่มขึ้นจากระดับ 603 รายที่รายงานเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียจนถึงขณะนี้อยู่ที่ราว 89,300 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1,181 ราย
ขณะที่เมื่อวานนี้ ผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคนในเมืองเมลเบิร์นซึ่งยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ได้ทำลายอาคารสถานที่ กีดขวางการจราจร และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย หลังจากทางการรัฐวิกตอเรียสั่งปิดไซต์ก่อสร้างนาน 2 สัปดาห์ โดยมีการจับกุมผู้ประท้วงกว่า 60 คน
“ภาพเหตุการณ์แย่ ๆ ที่เราเห็นเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจและผิดกฎหมาย”
นายแดเนียล แอนดรูวส์ ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรียกล่าวถึงเหตุประท้วงในระหว่างแถลงข่าวที่เมืองเมลเบิร์น
ขณะที่นายเชน แพตตัน หัวหน้าตำรวจของรัฐวิกตอเรียได้เตือนให้ผู้ประท้วงหลีกเลี่ยงการชุมนุมที่เมืองเมลเบิร์น ซึ่งจะมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดนนายแพตตันกล่าวว่า “เราจะไม่เปิดโอกาสให้พวกคุณทำแบบนั้นอีก… เราจะไม่ปล่อยให้มีการชุมนุมประท้วงแบบนี้ซ้ำอีก”
ทั้งนี้ เมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น รวมถึงกรุงแคนเบอร์ราอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 มาแล้วหลายสัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องการให้ประชาชนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นก่อนที่จะดำเนินการผ่อนปรนมาตรการ โดยเมืองเมลเบิร์นนั้นมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์มาแล้ว 6 รอบซึ่งมากที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ของออสเตรเลีย
ก่อนหน้านี้ ทางการรัฐวิกตอเรียมีเป้าหมายที่จะกลับมาเปิดเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์นอีกครั้ง โดยผ่อนคลายมาตรการบางส่วนลง เมื่อสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบทั้งสองโดสให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ได้ถึง 70% ตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค. และจะทยอยผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมเมื่อตัวเลขดังกล่าวแตะ 80%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 64)
Tags: COVID-19, รัฐวิกตอเรีย, ออสเตรเลีย, เชน แพตตัน, โควิด-19