อดีตปธ.เฟดนิวยอร์กฟันธงเฟดเดินหน้าหั่น QE ไม่สนหุ้นร่วงวันนี้

นายวิลเลียม ดัดลีย์ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุในวันนี้ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทรุดตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน จะไม่ส่งผลให้เฟดเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

“เฟดจะไม่มีปฏิกริยาต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเพียงเล็กน้อย โดยเลื่อนแผนการปรับลด QE”

นายดัดลีย์กล่าว

นอกจากนี้ นายดัดลีย์ยังเปิดเผยว่า “ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงตามตลาดหุ้นแห่งอื่น ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าวิกฤตการณ์จากการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะลุกลามออกไป และกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก”

อย่างไรก็ดี นายดัดลีย์คาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณในการประชุมสัปดาห์นี้ว่า เฟดจะทำการปรับลด QE ในการประชุมเดือนพ.ย.

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 500 จุด หรือราว 1.5% ใกล้หลุดระดับ 34,000 จุดในวันนี้ ขณะที่ดัชนี MSCI All Country World Index ลบ 0.6% ในวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ย.

นายแลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top