นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจลาเบลและซิลค์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์โทรคมนาคม ภายใต้บมจ. ฮินซิซึ (ประเทศไทย) หรือ HST ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SIMAT ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 70% มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าเดิม และลูกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์จากประเทศเกาหลี
ขณะที่ในส่วนของธุรกิจวิศวกรรม IT บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Universal Service Obligation (USO) ในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญารวม 5 ปี กว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เป็นปีแรก สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง จากรายได้ประจำ (Recurring Income) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น
สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ ยังเดินหน้าในธุรกิจหลักๆ ธุรกิจลาเบลและซิลค์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์โทรคมนาคม บริษัทฯ เตรียมขยายเข้าไปยังฐานลูกใหม่เพิ่ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าทางสหรัฐอเมริกา และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนธุรกิจวิศวกรรม IT ยังคงเดินหน้ามองหางานใหม่ที่บริษัทมีความรู้ ความเชี่ยวชาญสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
ในส่วนของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ หลังจากเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเจริญเคเบิลทีวี โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นการปรับลดต้นทุนการดำเนินงานลงมาอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4/64 รวมถึงการปรับกลยุทธ์การสร้างรายได้เพิ่มไปยังฐานลูกค้าที่เป็น B2B เช่น กลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล หอพัก คอนโดมิเนียม ที่การแข่งขันไม่สูงและยังมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ทั่วถึง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)
Tags: SIMAT, ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล, บรอดแบนด์, หุ้นไทย, อินเทอร์เน็ต, ฮินซิซึ, ไซแมท เทคโนโลยี