นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า หลังจากประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในการป้องกันและการควบคุมในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรม (ศบค.อก.) นัดแรกที่มีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ได้มีการหารือถึงแนวทางและมาตรการเชิงรุกเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศให้เร็วและมากที่สุด รวมถึงลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในอนาคต
กนอ.กำหนดเป้าหมายให้มีสถานประกอบกิจการและโรงงานเข้าร่วมดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal ไม่น้อยกว่า 10% ทั่วประเทศภายในเดือน ก.ย.64 โดยเกณฑ์การพิจารณากำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ โรงงานขนาดกลางถึงใหญ่โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม เน้นอุตสาหกรรมส่งออกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจสูง เช่น อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
โดย กนอ.ได้เสนอแนวทางดำเนินการ คือ 1.เน้นย้ำผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการกรอกข้อมูลแบบประเมินตนเองตามมาตรการ Good Factory Practice (GFP) ผ่านระบบ Thai Stop Covid+ และ Thai save Thai 2.ประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการและโรงงานได้รับรู้และเข้าใจในมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ครบถ้วน 100% และ 3.เทรนนิ่งและโค้ชชิ่ง ประสานงานกับกรมควบคุมโรคและกรมอนามัย ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้คำปรึกษาหรือตำแนะนำตามมาตรการดังกล่าวแก่สถานประกอบการและกิจการโรงงาน
ทั้งนี้ ศบค.อก.มีความเป็นห่วงเรื่องการปฏิบัติงานของสถานประกอบกิจการ การควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ โดยมีคอนเซ็ปต์คือ เพื่อให้เกิดการจัดกลุ่ม คุมไว ลดการแพร่กระจาย รายได้ไม่สูญเสีย สอดคล้องกับที่ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกำชับว่า กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันและขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงาน ซึ่ง กนอ.จะนำข้อสั่งการเหล่านี้มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สถานประกอบการที่เรากำกับดูแลมีความปลอดภัยสูงสุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)
Tags: Bubble and Seal, กนอ., กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, วีริศ อัมระปาล, สถานประกอบกิจการ, โควิด-19, โรงงานอุตสาหกรรม