สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande Group) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน ลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC โดยให้แนวโน้มการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ เนื่องจากสภาพคล่องของเอเวอร์แกรนด์ลดน้อยลง และบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้
ด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ก็ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอเวอร์แกรนด์ลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC+ พร้อมกับเตือนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้ธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ ของจีนมีความเสี่ยงด้านสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยฟิทช์ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆ จำนวน 5.72 แสนล้านหยวน (ประมาณ 8.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
“ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่ปล่อยกู้ให้กับเอเวอร์แกรนด์หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆที่มีความเปราะบาง อาจเผชิญกับหนี้เสียที่พุ่งขึ้นอย่างมาก” ฟิทช์ระบุ
ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะเดียวกันมีการประเมินว่า เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
สถานะทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์เริ่มสั่นคลอน หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคดังกล่าว โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของจีน โดยมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่นๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 64)
Tags: China Evergrande Group, S&P, จีน, ฟิทช์ เรทติ้งส์, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์, อสังหาริมทรัพย์, อันดับความน่าเชื่อถือ, เอเวอร์แกรนด์, ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป