ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande Group) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
แถลงการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ลูกค้าของบริษัทแห่กันมารวมตัวหน้าสำนักงานของบริษัททั้งในเมืองเสิ่นเจิ้น และอีกหลายเมืองทั่วประเทศจีนเพื่อขอเงินดาวน์คืนจากการที่บริษัทได้ระงับการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เนื่องจากขาดแคลนเงินทุน
มีการประเมินว่า ขณะนี้เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
สถานะทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์เริ่มสั่นคลอน หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขาย ท่ามกลางความไม่มั่นใจต่อสถานะทางการเงินของบริษัท
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่าในท้ายที่สุดรัฐบาลจีนจะเข้าช่วยเหลือบริษัทเอเวอร์แกรนด์ โดยจะไม่ปล่อยให้เกิดการล้มละลาย เนื่องจากการล้มละลายของบริษัทจะสร้างความเสี่ยงครั้งใหญ่ต่อระบบการเงินของจีน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ
ขณะนี้รัฐบาลของมณฑลกวางตุ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ของเอเวอร์แกรนด์แล้ว
ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของจีน โดยมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ซึ่งการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์จะส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: China Evergrande Group, จีน, ชำระหนี้, อสังหาริมทรัพย์, เอเวอร์แกรนด์, ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป