นายเอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO บริษัท Fraction (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท Fraction (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือ Fraction Group กิจการ Fintech ชั้นนำของฮ่องกง ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal License)
โดยจะเริ่มประกอบกิจการเมื่อได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต ทั้งนี้ Fraction ได้พัฒนา Platform เพื่อพร้อมให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลครบวงจรขึ้นมาเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งสามารถให้บริการที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน ดังนี้
- บริการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัล (NFT and Asset Digitization) และ การแบ่งซอยสินทรัพย์ออกเป็นส่วนย่อย ๆ (Ownership Fractionalization) อย่างครบวงจร
- การเสนอขายโทเคนดิจิทัลครั้งแรกให้กับนักลงทุน (Initial Fraction Offering หรือ IFO)
- บริการตลาดที่สองเพื่อรองรับการซื้อขายโทเคนดิจิทัลระหว่างผู้ลงทุน
- การทำหน้าที่ตัวกลางสำหรับบริการอื่นๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและนักลงทุนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ
ด้วย Platform สำเร็จรูปของ Fraction ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนและพร้อมใช้งานได้ทันที ทำให้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สามารถลงทุน, เสนอขาย, และบริหารการถือครองสินทรัพย์ทุกประเภทไม่ว่าส่วนของความเป็นเจ้าของจะเล็กน้อยแค่ไหน โดยสินทรัพย์นั้นอาจจะอยู่ในรูปของ คอนโดในเมือง, ริสอร์ทริมทะเล, งานศิลปะ ซึ่งรวมถึงการบริหารกองทุนส่วนบุคคล สินทรัพย์ และ ผู้ลงทุนด้วย
“พวกเรารู้สึกภูมิใจที่จะประกาศว่าเราเป็น platform แบบครบวงจร (unified platform) แรกภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการนำสินทรัพย์ที่มีตัวตนอย่างอสังหาริมทรัพย์มาแปลงสภาพเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และนำมาจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดรองได้อย่างเป็นระบบ เราใช้เวลากว่า 3 ปีในการพัฒนาเทคโนโลยี และเตรียมความพร้อมในแง่โครงสร้างทางกฎหมาย จนทำให้เราได้รับความเห็นชอบจากก.ล.ต. ให้เป็นผู้ให้บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน โดยการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้”นายเอกภักดิ์ กล่าว
Fraction เป็น Platform ที่ได้รับอนุมัติจากก.ล.ต. โดยใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล (Distributed Ledger Technology: DLT) และ Ethereum Blockchain ในการบริหารจัดการกรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่ถูกซอยย่อยลงมาอยู่ในรูปของโทเคนดิจิทัล บริษัทยินที่ได้เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีทางการเงินการลงทุน และ เทคโนโลยี distributed ledger มาหลอมรวมเข้าด้วยกัน ในขณะที่หลายๆคนได้แค่พูดถึง หรือพยายามที่จะทำสิ่งนี้ แต่บริษัทพัฒนา Platform ของ Fraction จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ได้ใช้งานเบื้องต้นแล้วในตลาดต่างประเทศ และพร้อมจะนำสินทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนใน Platform ของบริษัทได้แล้วด้วย
Fraction ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) และบมจ.เนอวานา ไดอิ (NVD) เพื่อหาแนวทางนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของทั้ง 3 บริษัทมาระดมทุนจากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลครั้งแรก (IFO) มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท
บริษัทเปิดช่องให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนด้วยรูปแบบการลงทุนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก Fraction และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งสาม ตั้งเป้าหมายจะพลิกโฉมหน้าโลกการลงทุน ด้วยการเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินทุนมูลค่าสูงได้ ยกตัวอย่างเช่นด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท นักลงทุนก็สามารถมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้า เช่น ห้อง Penthouse มูลค่า 350 ล้านบาท ของโครงการ Forestias หรือโครงการ Mulberry Grove Sukhumvit ซึ่งมีมูลค่าโครงการหลักหมื่นล้านบาท ของ MQDC รีสอร์ทระดับโลกอย่างศรีพันวา ภูเก็ต หรือ วิลล่า ติดหาด ของ Baba Beach Club ที่หาดนาใต้ภูเก็ต และ หัวหิน ของชาญอิสสระ และโครงการระดับแนวหน้าอย่าง Nirvana Beyond หรือ Nirvana @WORK ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลหลักที่กำลังเติบโตของกรุงเทพ
หลังจากที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้เริ่มดำเนินการได้แล้ว Fraction จะทำงานร่วมกับ MQDC ชาญอิสสระ และ NVD เพื่อสรุปโครงสร้างการเสนอขาย และจัดทำเอกสารการเสนอขาย IFO เพื่อยื่นขออนุมัติจาก ก.ล.ต. ต่อไป โดย Fraction คาดว่าจะเริ่มเปิดจอง IFO ได้ในไตรมาส 1/65
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ CI กล่าวว่า การร่วมลงทุนกับ Fraction ถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในทำเลชั้นเลิศทั่วประเทศไทย โดยในสมัยก่อนโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้เปิดให้กับทุกคน แต่ในวันนี้คนรุ่นใหม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในฐานะนักลงทุน
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า MQDC มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทาง Fraction ซี่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีทางการเงินหรือฟินเทค (Fin Tech) โดยความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ MQDC ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังถือเป็นครั้งแรกของโลกที่นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลบน platform แบบรวมศูนย์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แบบ inclusive ตามแนวคิด Customer-Centric ซึ่งเชื่อว่าโมเดลนี้จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และอีกหลายๆอุตสาหกรรมในอนาคตอย่างแน่นอน
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NVD กล่าวว่า บริษัทเข้าใจดีว่าโอกาสในการลงทุนที่ถูกจำกัดวงอยู่เฉพาะในกลุ่มคนที่มีฐานเงินทุนจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีคนหลายๆคนออกมาพูดถึงเรื่อง Asset digitization และ Fractionalization ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ แต่บริษัทยังไม่เห็นใครเลยที่ทำสำเร็จหรือพร้อมจะเดินหน้าในเรื่องนี้ไปกับเราจนวันนี้ Fraction จะทำให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ในแง่ของการเสริมสร้าง financial inclusion”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: Cryptocurrency, Fraction Group, MQDC, NVD, ก.ล.ต., คริปโทเคอร์เรนซี, ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์, วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์, ศรศักดิ์ สมวัฒนา, สงกรานต์ อิสสระ, สินทรัพย์ดิจิทัล, เนอวานา ไดอิ, เอกภักดิ์ นิราพาธพงศ์พร, แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น, โทเคนดิจิทัล