การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) เปิดเผยรายงานในวันพุธ (15 ก.ย.) ว่า คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 5.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี
UNCTAD เผยในรายงานว่า เศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาค ภาคธุรกิจ และระดับรายได้นั้น จะฟื้นตัวแตกต่างกันอย่างมาก และคาดว่าในปี 2565 การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 3.6% ทำให้ระดับรายได้ทั่วโลกยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ประมาณ 3.7%
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศในแถบซีกโลกใต้ได้รับผลกระทบหนักกว่าในช่วงวิกฤตการเงินโลก และเมื่อประกอบกับภาระหนี้สินที่สูงมากแล้ว ประเทศเหล่านี้ยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายภาครัฐได้ยากอีกด้วย
นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งยังประสบปัญหาจากการไม่สามารถกำหนดนโยบายการเงินได้อย่างอิสระ ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนวัคซีนอีกด้วย ทำให้เศรษฐกิจกลุ่มนี้ตามหลังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้นไปอีก และอาจนำไปสู่ภาวะ “ทศวรรษที่สูญหาย” อีกครั้งหนึ่ง
UNCTAD เชื่อว่า ประชากรในประเทศแถบซีกโลกใต้ที่มีปัญหาทางการเงินอยู่แล้วเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 นั้น อาจเจอภัยคุกคามร้ายแรงจากราคาอาหารที่สูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลในรายงานเผยว่า การค้าสินค้าและบริการทั่วโลกได้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากปรับตัวลดลง 5.6% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการค้าโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ฟื้นตัวแข็งแกร่งในอัตราใกล้เคียงกับที่หดตัวในช่วงก่อนหน้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: UNCTAD, องค์การสหประชาชาติ, เศรษฐกิจโลก