ราคาหุ้น BBIK ปิดเช้าอยู่ที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 15.50 บาท หรือ 86.11%จากราคา IPO 18 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,050.05 ล้านบาท จากราคาเปิด 36.75 บาท ราคาสูงสุด 38.50 บาท และราคาต่ำสุด 31.00 บาท
![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2021/09/20210916_PRG_BBIK_พชร-อารยะการกุล_1stday-1024x576.jpeg)
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) กล่าวว่า ในวันนี้บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ซึ่งราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก ก็รู้สึกพอใจ ที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักเกินกว่าความคาดหมาย เนื่องจากนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไป 1. เพิ่มบุคลากรและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ตลอดจนวางแผนพัฒนาศูนย์การพัฒนาทักษะ (Learning Academy Center) พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Software as a Service หรือ SaaS) รวมถึงจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Center) 3. เสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายใน ผ่านการยกระดับระบบซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร 4. ขยายพื้นที่สำนักงานรองรับการเพิ่มบุคลากร 5. ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องและมีศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตและรับมือความผันผวนของตลาด (M&A และ JV) วางงบลงทุนราว 130 ล้านบาท และ 6. เสริมศักยภาพด้านเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ จากการประมาณการเบื้องต้นเบื้องต้น มูลค่าที่เหมาะสมของบมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ในปี 2565 อยู่ที่ 26.5 บาท เทียบกับกลุ่ม TECH MAI ที่ PER 36 เท่าเนื่องจากธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลุยทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีไม่มีตัวเปรียบเทียบที่ชัดเจนในตลาด โดยส่วนใหญ่ในตลาดจะเน้นงาน System Integrator มากกว่า (มี IIG ที่ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัล แต่มีมาร์จิ้นที่ต่ำกว่า BBIK จากลักษณะการดำเนินงานที่ต่างกัน) แต่เราให้ส่วนลดจากขนาดของบริษัทซึ่งอาจส่งผลต่อการแข่งขัน
โดยมองว่าแนวโน้มของธุรกิจการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี, การจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลมีการเติบโตที่สูง ทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ป็นตัวเร่งทำให้ Digital Transformation มีบทบาทมากขึ้นทั้งจากกระแสการ Work from Anywhere, การช่วยลดต้นทุนให้แก่องค์กร และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายรูปแบบออนไลน์ ประกอบกับแผนการลงทุนของบริษัทซึ่งจะมีการรับพนักงานเพิ่ม จะช่วยเพิ่มทั้งรายได้ และอัตรากำไรให้กับบริษัท จากการที่สามารถรับงานได้มากขึ้น และต้นทุนหลายอย่างที่สามารถแชร์ระหว่างโปรเจคได้
นอกจากนี้ จากลักษณะการดำเนินงานของบริษัททำให้มีโอกาสเกิดการร่วมทุนกับบริษัทที่เป็นลูกค้าในอนาคตเช่นเดียวกับที่มีการร่วมทุนกับ OR ในการจัดตั้งบริษัทย่อย ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (คาดจะเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนใน Q4 และเห็นรายได้ที่ชัดเจนในปี 2565 ซึ่งเรายังไม่ได้รวมในการประมาณการของเรา) สำหรับความเสี่ยงที่ต้องระวังของ BBIK คือรายได้อาจมีความไม่สม่ำเสมอในบางไตรมาส, มีการพึ่งพาบุคลากรค่อนข้างสูง และการแข่งขันค่อนข้างสูงจากบริการที่คล้ายกันกับคู่แข่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: BBIK, IPO, บลูบิค กรุ๊ป, พชร อารยะการกุล, หุ้นไทย