นักวิเคราะห์คาดแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นดาวน์โจนส์บวกกว่า 200 จุด ที่คลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจ และยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน และเริ่มกลับมาทยอยเข้าซื้อกลุ่มเปิดเมืองหลังเตรียมเปิดเที่ยวกรุงเทพ 15 ต.ค.นี้ ให้กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,625-1,635 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที คาดว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยบวกสำคัญคือตลาดต่างประเทศที่มีสถานการณ์ค่อนข้างดี แม้ก่อนหน้านี้นักลงทุนจะกังวลเรื่องเศรษฐกิจในสหรัฐฯ แต่เมื่อคืนตลาดหุ้นดาวโจนส์บวก 200 กว่าจุด และดัชนี S&P 500 บวกเช่นกัน ตอบรับการคลายกังวลของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งก็จะส่งผลดีมายังตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆด้วย
ด้านตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน และนักลงทุนเริ่มกลับมาทยอยเข้าซื้อหุ้นธีมเปิดเมืองอีกครั้ง แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านักลงทุนชะลอการซื้อหุ้นกลุ่มนี้ไป จากข่าว Bangkok Sandbox ที่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 15 ต.ค.64 นี้
สำหรับตลาดเอเชียจะบวกตามตลาดสหรัฐฯ แต่มองว่าตลาดหุ้นเอเชียอาจจะบวกเพียงเล็กน้อย โดยมี Fund Flow กลับเข้ามาบ้าง ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเริ่มมีแรงซื้อกลับมา ก็คือผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและการเก็งกำไรในหุ้นเปิดเมืองเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นไทย
ให้กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,625-1,635 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,814.39 จุด เพิ่มขึ้น 236.82 จุด (+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,480.70 จุด เพิ่มขึ้น 37.65 จุด (+0.85%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,161.53 จุด เพิ่มขึ้น 123.77 จุด (+0.82%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ 3,664.84 จุด เพิ่มขึ้น 8.62 จุด (+0.24%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ 30,606.15 จุด เพิ่มขึ้น 94.44 จุด (+0.31%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,042.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.82 จุด (+0.04%)
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ย.) 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด (+0.26%)
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 703.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.ย.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 ก.ย.) ปิด 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.15 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.ย.) อยู่ที่ 5.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.87/88 แนวโน้มแกว่งแคบ ตลาดรอดูทิศทางจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก
– “พิพัฒน์-อัศวิน” จับมือเคาะวันเปิด “กรุงเทพฯ” 15 ต.ค.นี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องกักตัวเที่ยวได้ทุกเขต ภายใต้โครงการ “แบงค็อก แซนด์บ็อกซ์” หลังเลื่อนจากกำหนดเดิม 1 ต.ค. รอฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ถึงเกณฑ์ 70% ชี้ปี 64 นำร่องเปิดได้ 9 จังหวัดก่อน คงเป้าดึงทัวริสต์ต่างชาติเที่ยวไทย 1 ล้านคน ขณะที่ นายกฯ สั่งคุมโรค จัดวัคซีนเพิ่มให้กลุ่มเสี่ยงกลุ่มเดินหน้าเศรษฐกิจ สธ.ส่งทีมสอบสวนคุม “โควิดภูเก็ต” ป้องกันกระทบท่องเที่ยว
– ตลาดฯ เตรียมปรับเกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ลิสต์ สกัดหุ้นร้อนฟรีโฟลตต่ำ ระบุห้ามนำวอลุ่มระหว่างติดแคชฯ มาคำนวณหุ้นเข้า SET50 และ SET100 คาดประกาศเดือน พ.ย.นี้ ด้านโบรกฯ มอง 8 หุ้นเข้าข่ายหลุด DELTA อาการหนักสุดติดแคชฯ นาน 21 สัปดาห์, NRF 18 สัปดาห์, PSL 18 สัปดาห์ และ KCE ติดนาน 6 สัปดาห์ ด้านสภาตลาดทุนแนะออกดัชนีใหม่เฉพาะหุ้นเจ้าปัญหา
– “ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ” ชี้ตลาดอสังหาฯ ผ่านจุดต่ำสุด หลังเผชิญโควิดระลอก 3 ระบุบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ยังไปได้แต่ไม่หวือหวา เตือนระวังซัพพลายทาวน์เฮ้าส์ ขณะที่ดีมานด์คอนโดราคา 2-3 ล้านบาทเริ่มกระเตื้องจากโปรโมชั่น-การันตีผลตอบแทน ดึงคนซื้อเพื่อลงทุน คาดปีหน้าตลาดฟื้นตัว ตัวเลขโอนกรรมสิทธิ์พลิกโต 10% จากปีนี้ติดลบ 20%
– “คลัง” เด้งรับออกมาตรการดึงเงินเศรษฐีต่างชาติเข้าไทย เว้นคำนวณภาษีเงินนำมาใช้จ่าย ให้สิทธินำเข้าเหล้า-บุหรี่เท่านักการทูต ชี้ปลายปีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ส.อ.ท.คาดหนุนลงทุน “เอฟดีไอ-อสังหาฯ” หอการค้ามั่นใจเม็ดเงินไหลเข้าประเทศ “ไทยพาณิชย์” แนะรัฐกู้เพิ่ม 1 ล้านล้านเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจ
– “SCB EIC” หั่นจีดีพีไทยปีนี้เหลือ 0.7% หลังโควิด-19 ระบาดรุนแรง-ยืดเยื้อ ฉุดการบริโภคภาคเอกชน ท่องเที่ยวยังโคม่า ต่างชาติเข้าไทยเหลือ 1.7 แสนคน กระทุ้งรัฐอัดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ ชี้มาตรการเก่ายังแรงไม่พอ แนะกู้อีก 1 ล้านล้านบาท ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
– ‘หมอประสิทธิ์’เผยตัวเลขติดเชื้อลด แต่ขอให้เข้มต่ออีก 1 เดือน ย้ำกินอาหารร่วมกันเสี่ยง อยู่ ในช่วงเฝ้าระวังระบาดรอบ 5 โมเดอร์นาเข้ากลาง ต.ค.นี้ ติด โควิดเพิ่มอีก 13,798 ตาย 144 ราย ศบค.เตือนงานศพ งานอีเวนต์ ยังเสี่ยงป่วย
หุ้นเด่นวันนี้
– CPALL (ฟิน้นเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้า 76 บาท คาดกำไรชะลอใน 3Q21 จากการ Lockdown แต่คาดจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแรงใน 4Q21 จากการผ่อนคลายมาตรการซึ่งทำให้ Traffic เข้า 7-11 ดีขึ้น ส่วนการขยาย 7-11 ในกัมพูชาเป็นปัจจัยหนุนระยะยาว ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อดีลปรับโครงสร้าง MAKRO-Lotus’s ซึ่งเป็นการปลดล็อคฐานะการเงินของ CPALL ที่ค่อนข้างตึงตัวให้หมดไป และปิดความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุน
– NEX (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 9.50 บาท มอง 2H21 outlook สวย ลุ้นกำไร Turn around หลังทยอยส่งมอบรถบัสไฟฟ้า 100 คัน ในปีนี้ เมื่อส่งมอบจริงราคาหุ้นจะตอบรับบวก นักลงทุนเริ่มมั่นใจ ไทยเตรียมเปิดเมือง ผู้ประกอบการรถบัสจะกลับมา คาดจะมีการเปลี่ยนเป็นรถบัสไฟฟ้า ประเมินราคาขายรถบัสของ EA-NEX แข่งขันได้ คาดรับ Order แน่นในปี 2022 Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2021-2022 ที่ 353 ลบ. และ 1.26 พัน ลบ. พลิกจากขาดทุนในปี 2020 และเติบโต , +257%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 64)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, บล.เคทีบีเอสที, มงคล พ่วงเภตรา, หุ้นไทย