NWR มั่นใจปี 65 พลิกบวกจากปีนี้โควิดทำขาดทุน หวังงานก่อสร้างเพิ่ม-อสังหาฯหนุน

นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 65 มั่นใจว่าจะเห็นการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร หลังจากแรงกดดันจากโควิด-19 คลี่คลายลงไปมาก ส่งผลให้งานรับเหมาก่อสร้างโครงการต่างๆดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถส่งมอบงานให้กับเจ้าของโครงการได้มากขึ้น จากช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดรุนแรงทำให้งานก่อสร้างชะงักไป โดยเฉพาะไตรมาส 2/64 การส่งมอบงานให้กับลูกค้าจึงต้องเลื่อนออกไป และกระทบต่อรายได้ของบริษัท

ขณะเดียวกัน บริษัทมองว่าในปี 65 จะมีงานโครงการจากผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะงานภาคเอกชนทยอยออกมามากขึ้น หลังจากในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาภาคเอกชนชะลอการลงทุน ทำให้งานส่วนใหญ่ที่ออกมาเป็นงานของภาครัฐ แต่ก็ยังมีจำนวนไม่มาก และมีการเลื่อนการประมูลออกไปบางโครงการ ทำให้งานระยะสั้นที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้เร็วหายไปมาก แต่มองว่าจะเริ่มเห็นการกลับมามากขึ้นในปีหน้า หลังจากสถานการณืโควิดคลี่คลายและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวขึ้น ทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานมากขึ้น

ส่วนธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายในปี 65 ยังมีการทยอยโอนโครงการคอนโดมิเนียม Aspen สาซาล ในเฟส B และ C เข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ดังนั้น จะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เข้ามามากขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปี 65 กลับมาเป็นบวก และยังมีแผนการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่าราว 150 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน

สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 64 ยอมรับว่าอาจยังมีผลขาดทุน โดยได้รับแรงกดดันจากช่วงไตรมาส 2/64 ที่มีการทยอยปิดแคมป์คนงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อเนื่องในช่วงเดือน ก.ค.คาบเกี่ยวมาถึงต้นเดือน ส.ค. 64 ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง ส่งผลให้บริษัทไม่มีรายได้เข้ามา และเกิดต้นทุนค่าใช้จ่ายมากขึ้น แรงกดดันจากครึ่งปีแรกนำมาสู่ผลการดำเนินงานทั้งปีนี้ที่จะยังขาดทุน

อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันที่ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มาส่วนหนึ่งแล้ว และบริษัทได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในไซต์งานก่อสร้างของบริษัท รวมถึงมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับคนงานแล้วนั้น ปัจจุบันงานก่อสร้างได้กลับมาดำเนินการมากขึ้นแล้ว ทำให้บริษัทจะมีงานบางส่วนที่แล้วเสร็จตามสัญญาจะเริ่มมีการรับรู้รายได้เข้ามา ส่งผลให้ไตรมาส 3/64 ผลงานน่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 2/64 เล็กน้อย แต่จะเห็นการกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4/64

ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4/64 จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม Aspen เฟส B เข้ามาบางส่วน ช่วยหนุนรายได้ของบริษัทให้เติบโตโดดเด่นขึ้น โดยทั้งปี 64 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ 15% จากปีก่อน

ด้านมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทปัจจุบันมีงานในมืออยู่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 3 พันล้านบาท และบริษัทจะหางานใหม่เข้ามาเติม Backlog ในสิ้นปีนี้เพื่อรักษาระดับไม่ให้ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยคาดหวังจะคว้างานใหม่เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท จากงานที่บริษัทเข้าร่วมประมูลทั้งหมดมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top