นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PDJ) เปิดเผยว่า บริษัทฯรับรายได้ปี 64 พลาดเป้าหมายที่ 3,200 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม ที่ส่งผลให้ภาครัฐบาลมีการใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) และห้างสรรพสินค้าต่างๆก็ต้องมีการปิดไปด้วย ส่งผลให้ยอดขายไม่สามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ทำ Synergy กับพันธมิตรทั้งห้างสรรพสินค้า และบัตรเครดิต เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยไม่ได้จำกัดแค่สินค้า 24K และมุ้งเน้นการทำกิจกรรม CRM เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขาย Omni Channel Platform Development เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา
นายชนัตถ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าต้นทุนด้านการบริหารและจัดการในช่วงที่ผ่านมาจะปรับตัวสูงขึ้นมาบ้าง เป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ปกติ ต่างจากปีก่อนที่มีการปิดโรงงานและหยุดจ่ายเงินเดือนพนักงานไป แต่อย่างไรก็ตามต้นทุนการบริหารจัดการต่างๆจะไม่ได้กลับมาสูงเหมือนก่อนช่วงโควิด-19 แน่นอน
“สำหรับทิศทางผลประกอบการด้านกำไรสุทธิยังคงต้องติดตามว่าจะกลับมามีกำไรสุทธิได้เมื่อไหร่ เพราะยังมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามบริษัทได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี และทำให้ค่าใช้จ่ายการขายและบริการมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนหน้าสถานการณ์การแพร่บาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเรามั่นใจว่าปีนี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ไม่ต่ำกว่า 25% และเราเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ต่างๆที่ทำไว้หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย การเติบโตก็จะกลับมาสู่ปกติ” นายชนัตถ์ กล่าว
นายชนัตถ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 64)
Tags: PDJ, ชนัตถ์ สรไกรกิติกูล, ผลประกอบการ, แพรนด้า จิวเวลรี่