สภาหอการค้าสหภาพยุโรป (EuroCham) กล่าวว่า นักลงทุนจากยุโรปในเวียดนามเตรียมพิจารณาย้ายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่น หากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเวียดนามยังคงยืดเยื้อต่อไป
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นเดือนก.ย.ของ EuroCham ระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 18% ระบุว่า ได้มีการย้ายการผลิตบางส่วนไปยังประเทศอื่นแล้ว ส่วนอีก 16% กำลังพิจารณาทางเลือกอยู่
นายอแลง คานี ประธาน EuroCham ระบุในแถลงการณ์ว่า “สิ่งที่สมาชิกของเราต้องการตอนนี้คือ แผนการที่ชัดเจนนอกเหนือจากมาตรการในปัจจุบัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมทางการค้า และเพื่อให้สมาชิกมีแนวทางในการวางแผนกลับมาเปิดธุรกิจได้ต่อไป”
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเวียดนามพุ่งสูงขึ้นเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลเวียดนามบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคทั่วประเทศ และส่งผลให้แรงงานรวมถึงบริษัทหลายแห่งต้องระงับการผลิตชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้ยอดส่งออก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกในเดือนส.ค.ร่วงลง
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจของยุโรปยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น รวมถึงหาแนวทางให้สามารถขนส่งสินค้าได้ราบรื่น ผ่อนคลายการเดินทางเคลื่อนย้ายแรงงาน และเร่งดำเนินการให้บรรดานักธุรกิจและนักลงทุนที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าประเทศได้
ปัจจุบัน เวียดนามมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่ำสุดในเอเชีย โดยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วเพียง 4.3% จากประชากร 98 ล้านคน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 64)
Tags: นักลงทุน, ยุโรป, ล็อกดาวน์, อุตสาหกรรมการผลิต, เวียดนาม