นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติในการฝ่าฟันวิกฤตไปพร้อมกับการขยายโครงการใหม่ๆ เพื่อช่วย Springboard ให้ประเทศฟื้นตัวทั้งในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ด้วยจุดแข็งในการบุกเบิกเมืองเศรษฐกิจและทำเลศักยภาพ เรายืนยันเดินหน้าเปิดศูนย์การค้าตามแผน โดยเตรียมเปิดให้บริการ เซ็นทรัล อยุธยา ในวันที่ 30 พ.ย. 64
บริษัทได้ประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ และมีแผนรองรับพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ทางศูนย์การค้าและร้านค้ามีความมั่นใจในการเตรียมความพร้อมด้วยมาตรการความสะอาดปลอดภัยเข้มข้นขั้นสูงสุด รวมถึงดูแลให้พนักงานฉีดวัคซีนครบ 100% ก่อนเปิดให้บริการ โดยเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำในการสร้างโมเดลศูนย์การค้าปลอดภัย ทั้งการริเริ่มแผนแม่บทและการเปิดพื้นที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนและกิจกรรมสาธารณสุขต่างๆ ของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง”
“เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้นำอสังหาฯ รายใหญ่ การขยายโครงการของเราจะช่วยสร้าง Economic & Tourism Impact ได้อย่างมาก ดังเช่นโครงการเซ็นทรัล อยุธยา ที่รองรับการฟื้นตัวของค้าปลีก ช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัด สร้างงาน สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น อีกทั้งเรายังหวังให้เป็นจังหวัดแรกๆ ที่การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว” นายณัฐกิตติ์ กล่าว
โครงการเซ็นทรัล อยุธยา จะกลายเป็นเดสติเนชั่นและศูนย์กลางของจังหวัดที่เข้าไป Complete Tourism Ecosystem ของอยุธยาทั้งระบบ ด้วยความครบครันในที่เดียวทั้ง Transportation Hub, Tourist Information และ Cultural Space จึงเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นแบบ Short Trip หรือการเที่ยวอยุธยาให้นานขึ้น เที่ยว 2 วัน 1 คืน และเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน
นอกจากนี้เรายังใช้แนวคิด Community at Heart ด้วยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน ส่งเสริม Local Wealth ให้ผู้คนได้มีรายได้ เช่น การจับมือกับไกด์ท้องถิ่น และแนวคิดการสร้าง The City Wonder Experience โดยวางแผนจับมือกับภาครัฐ ซึ่งจะเป็นการรวมผู้คนในชุมชน ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้มาอยู่ใน Ecosystem เดียวกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ด้านการดูแลพันธมิตรผู้เช่าเราดูแลช่วยเหลือต่อเนื่องรอบด้าน เน้นเพิ่มความยืดหยุ่นให้คู่ค้ามีความมั่นใจในการลงทุน ด้วยแผนการตลาดและเครื่องมือบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ อีกทั้งเซ็นทรัล อยุธยา ยังมีการออกแบบพื้นที่ในฟอร์แมตใหม่ๆ มีความเป็น Day-to-Night Attractions เที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน รวมถึงความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมและมี Must-Visit Instagrammable Landmarks ทั่วทั้งศูนย์ฯ จึงเปิดโอกาสให้คู่ค้าได้ทำโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
พร้อมทั้งยังเน้นการ Co-Creation กับแบรนด์ต่างๆ สร้าง Unique Experience ให้กับอยุธยา และด้วยความแข็งแกร่งของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีเครือข่ายเข้าถึงทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่นและคู่ค้ารายใหญ่ การทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการได้มาเจอกันยังถือเป็นความสำเร็จในทุกๆโครงการที่บริษัทขยายไปอีกด้วย
บริษัทฯ เตรียมแผนผลักดันช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับท้องถิ่นของทั้งสองศูนย์การค้าที่กำลังจะเปิดให้บริการ เริ่มที่การส่งเสริมให้อยุธยาเป็นจังหวัดแรกในแผนเที่ยวจังหวัดใกล้อย่างปลอดภัย หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายขึ้นในช่วงปลายปี 64 โดยเซ็นทรัล อยุธยา จะเป็นจุดหมายปลายทางที่จะช่วยเติมเต็มการท่องเที่ยวของอยุธยาทั้งระบบ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น พร้อมส่องสปอตไลท์ให้อยุธยาโดดเด่น เป็นเมืองท่องเที่ยว UNESCO World Heritage ที่ทั่วโลกต้องมาเยือน เพื่อรองรับการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวในอนาคต
ในขณะที่เซ็นทรัล ศรีราชา จะช่วยส่งเสริมศรีราชาในด้านการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการเป็นศูนย์กลางของ EEC และ New S Curve ในอนาคต พร้อมมอบประสบการณ์ล้ำอย่างลงตัวในบรรยากาศแบบ Semi-Outdoor ใกล้ชิดธรรมชาติ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ศรีราชา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ย. 64)
Tags: CPN, lifestyle, ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา, ห้างเซ็นทรัล, เซ็นทรัลพัฒนา