บรรยากาศบริเวณแยกราชประสงค์ เริ่มมีมวลชนรวมตัวแยกราชประสงค์ โดยมีการปิดช่องจราจรหน้าเกษรพลาซ่า เพื่อให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นำรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาจอดเป็นขบวน ก่อนเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปสมทบกับการชุมนุมบริเวณแยกอโศกที่มีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ เป็นแกนนำ ในเวลา 16.00 น.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้จะสร้างโมเดลใหม่ โดยเป็นการผสมกันระหว่างคาร์ม็อบและคนม็อบ โดยจะมีการชุมนุมอยู่ที่แยกอโศก และจะมีเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบผ่านแยกอโศก เป็นการแสดงพลัง ก่อนจะมีการนัดแสดงพลังใหญ่ในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“กำลังหารูปแบบใหม่ที่ก้าวข้ามเรื่องโควิด-19 โดยนำจุดแข็งเรื่องคาร์ม็อบที่มีคนมาร่วมเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยจะมีทั้งคนม็อบสะสมพลังที่แยกอโศกและคาร์ม็อบวนผ่านไป 2-3 รอบ เพื่อให้คนรู้ว่านัดชุมนุมกันที่นี่ ดูกันไปสัก 2-3 วันจะประเมินสถานการณ์แล้วประกาศนัดชุมนุมใหญ่”
นายณัฐวุฒิ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า ในสัปดาห์นี้จะเห็นเป็นรูปธรรมของการชุมนุมที่ชัดเจน ส่วนการปักหลักชุมนุมนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่เอื้อให้ปักหลักค้างคืน เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 10 ปีก่อน โดยเฉพาะมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้มีคนมาร่วมชุมนุมในเวลาไม่นานมากนัก คนต่างจังหวัดจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุม 3-4 ชั่วโมงแล้วเดินทางกลับ รวมถึงตนเองจะเดินทางไปชุมนุมที่ต่างจังหวัดก็ไม่สะดวก
สำหรับการชุมนุมที่แยกอโศกวันนี้จะเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปอภิปรายบ้างแล้วพวกตนจะมานั่งฟัง เนื่องจากไม่ได้เป็นแกนนำแต่เป็นคนจัดการและคอยประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะรักษาแนวทางและหลักการในการต่อสู้
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกันและเลือกแนวทางต่อสู้เช่นนั้น ซึ่งตนเองมีความเห็นห่วง และอยากฝากเจ้าหน้าที่ให้พิจารณาด้วยว่าคนเหล่านั้นออกมาชุมนุม เพราะเจอปัญหาคนในครอบครัวเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐ หรือได้รับผลกระทบเรื่องรายได้
โดยเมื่อเวลา 16.34 น. กลุ่มคาร์ม็อบได้เคลื่นขบวนออกจากบริเวณหน้าเกษรพลาซ่า นำโดยขบวนรถจักรยานยนต์ ตามด้วยขบวนรถยนต์ ผ่านเส้นทางถนนวิทยุ ระหว่างทางมีประชาชนร่วมชู 3 นิ้ว และบีบแตรเป็นจังหวะไปตลอดเส้นทาง และล่าสุดขบวนคาร์ม็อบได้มาถึงแยกอโศก และได้มีการกลับรถเพื่อวนกลับอีกรอบ
นายณัฐวุฒิ ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัยว่า วันนี้เป็นการซักซ้อมรูปแบบการชุมนุมที่เหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19 โดยปักหลักสะสมพลังที่แยกอโศกอีก 2-3 วันก่อนจะนัดชุมนุมใหญ่ขับไล่นายกฯ อีกที และวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) จะนัดชุมนุมที่แยกอโศกในเวลา 16.00 น. พร้อมทั้งเปิดรับสมัครผู้ออกร้านอาหาร และการแสดงศิลปะ เพื่อจัดกิจกรรมบนถนน นอกจากนี้จะยังมีกิจกรรมคาร์ม็อบเช่นเดิม
“นี่ไม่ใช่การขับไล่เพื่อปรับ ครม. ไม่ใช่การขับไล่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แต่เป็นการขับไล่เผด็จการให้ออกไป”
นายณัฐวุฒิ กล่าว
การออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากเห็นแล้วว่าเราทนไม่ไหวแล้ว ไม่รู้จะพึ่งพาอะไรแล้ว จะพึ่งระบบรัฐสภาก็ไม่ได้แล้ว อย่างกรณีที่มีข่าวนายกฯ แจกเงิน ส.ส. แต่ประธานสภาฯ ไม่รีบดำเนินการกลับไปตั้งคณะกรรมการสอบ ส.ส.ที่ออกมาปูดข่าว ขณะที่มีผู้ติดเชื้อวันละเป็นหมื่นคน และเสียชีวิตวันละ 200-300 ศพ แต่ได้รับการโหวตไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไป
สำหรับการชุมนุมที่แยกอโศกวันนี้ เปิดเวทีฟรีสปีชให้ผู้มาร่วมชุมนุมขึ้นไปพูดแสดงความในใจที่ไม่พอใจรัฐบาล นอกเหนือจากการปราศรัยของนายสมบัติ บุญงามองค์ หรือ บก.ลายจุด, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท ชินวัตร และนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท อีกทั้งมีการแสดงเชิงสัญลักษณ์คัดค้านเรื่องการเรียนออนไลน์จากกลุ่มนักเรียนเลว โดยใช้เชือกขนาดใหญ่ผูกตัวเด็กผู้หญิงใส่ชุดนักเรียนเปื้อนเลือดแล้วห้อยลงมาจากสถานีบีทีเอสอโศก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 64)
Tags: ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ผู้ชุมนุม, ม็อบทะลุแก๊ซ, สมบัติ บุญงามอนงค์