สรุปข่าวเด่นวงการ Cryptocurrency ทั่วโลกรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ส.ค.-3 ก.ย.64) เริ่มต้นด้วยข่าวของราคาเหรียญยอดนิยมอย่าง Solana ที่มีตัวย่อ “SOL” ภายหลังจากที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกระแสการมาถึงของ Blockchain 3.0
เทคโนโลยี Blockchain นับว่าเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วและจะมีเหรียญที่ออกมาเรื่อย ๆ ตามช่วงเวลาต่าง ๆ โดยหากเปรียบเทียบตามช่วงเวลาในการพัฒนา จะสามารถแบ่งเหรียญต่าง ๆ ได้ ดังนี้
-Blockchain 1.0 คือ เหรียญที่สามารถรับ-ส่งกันได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง ได้แก่ Bitcoin, Litecoin หรือ Dogecoin
-Blockchain 2.0 คือ เหรียญที่สามารถ เขียนสัญญาอัจฉริยะ หรือ “Smart Contract” ลงไปในตัวเหรียญได้ เช่น Ethereum
-และปัจจุบันคือ Blockchain 3.0 เหรียญที่จะมาแก้ปัญหาการ scaling นั่นก็คือปัญหาด้านความเร็วในการรองรับธุรกรรม ของเหรียญ Blockchain 1.0 และ 2.0 เช่น เหรียญ “Solana” ที่มีตัวย่อว่า “SOL” นั่นเอง
ฟากของ “Solana” ได้ออกมาประกาศว่าต้องการเป็นเหรียญ Blockchain 3.0 เหรียญแรกที่ตอบโจทย์ “Blockchain Trilemma” ด้วยองค์ประกอบครบทั้ง 3 ประการ นั่นก็คือ (1) Security ความปลอดภัย (2) Decentralized การกระจายศูนย์ และ (3) Scalability ความสามารถในการรองรับธุรกรรมต่อวินาที โดย Solana เองจะประมวลผลธุรกรรมได้เร็วกว่า Ethereum ถึง 5 เท่า
เมื่อลองย้อนไปเหรียญยุค Blockchain 1.0 และ 2.0 “ไม่มีเหรียญไหนที่ก้าวข้าม” หรือ “มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 อย่าง” แม้แต่บิทคอยน์ (BTC) หรือ อีเธอเรียม (ETH) เองก็จะมีองค์ประกอบแค่ 2 นั่นคือ Security กับ Decentralize เท่านั้น
หากย้อนพิจารณาเชิงสถิติการเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์จะพบว่าทุกๆช่วงเดือนกันยายนมักเป็นช่วงที่ราคาบิทคอยน์ปรับตัวร่วงลงเป็นประจำ ซึ่งหากดูข้อมูล 8 ปีย้อนหลังก็จะพบว่ามีการปรับตัวลงถึง 6 ใน 8 ปี และวันนี้ก็ก้าวเข้าสู่เดือนกันยายนแล้ว ทิศทางราคาบิทคอยน์จะปรับลดลงเหมือนในอดีตหรือไม่ คงเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด
เกาะติดกับกระแสข่าวล่าสุดของยักษ์ใหญ่ “Social Platform” ชื่อดังอย่าง Twitter เผยว่ากำลังทดลองให้ผู้ใช้บริการ สามารถจ่ายทิปด้วยบิทคอยน์แก่ Content Creator ได้โดย Alessandro Paluzzi นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นมือถือชื่อดังที่กำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นอยู่บน Lightning Network นั่นเอง
และหากข่าวนี้เป็นเรื่องจริงก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะว่า CEO ของ Twitter อย่าง Jack Dorsy ก็เป็นหนึ่งบุคคลที่สนับสนุน Cryptocurrency มาตั้งแต่เริ่มต้น
ล่าสุดทาง BTS Group Holding ได้ประกาศจับมือ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่ง “JMART” เป็นบริษัทแม่ของ “J-Venture” ผู้เป็นเจ้าของเหรียญ J-Fin การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการ Synergy กับกลุ่ม “BTS” ที่มีแผนที่จะนำ JFIN Token มาใช้ในเครือของ BTS ได้ภายในปี 2565 เรียกว่าหากมีการใช้งานได้จริงก็จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของผู้ใช้งาน และสะดวกสบายมากขึ้นด้วยอีกด้วย
บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) หุ้นส่วนทางกลยุทธ์เหรียญ BitDAO ร่วมลงทุนกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (Pre ICO) กับ “ByBit” แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเหรียญ BitDAO เปิดประมูลเมื่อ 16 ส.ค.ด้วยมูลค่าประมูลสูงสุดที่ราคา 2 เหรียญสหรัฐ ทำให้ Market Cap พุ่งทะยานแตะ 6 แสนล้านบาทในเวลาอันรวดเร็ว
และความน่าสนใจของเหรียญ BitDAO อยู่ที่การให้สิทธิแก่ผู้ถือเหรียญในการออกเสียงกำหนดทิศทางการบริหารเงินทุนของ BitDAO Treasury ซึ่งเป็นกองทุนที่ใช้หลักการบริหารแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อสนับสนุนการเติบโตของ DeFi ในด้านต่างๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 64)
Tags: bitcoin, BitDAO, Blockchain, BROOK, BTC, BTS Group Holding, Cryptocurrency, CryptoShot, JMART, SOL, Solana, คริปโตเคอเรนซี, คริปโทเคอร์เรนซี, บล็อกเชน, บิทคอยน์