นายหวง เจิ้น รองประธานบริหารของบริษัทวาลแว็กซ์ ไบโอเทคโนโลยี (Walvax Biotechnology) ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ตัวแรกของจีน ประกาศว่า บริษัทน่าจะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการทดลองขั้นสุดท้ายได้ก่อนสิ้นปีนี้
นายหวงเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “เออาร์โควี” (ARCoV) ที่ร่วมพัฒนาโดยบริษัท วาลแว็กซ์ ไบโอเทคโนโลยี, ซูโจว อ้ายโป๋ ไบโอไซเอนซ์ (Suzhou Abogen Biosciences) และสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AMMS) สังกัดสถาบันวิทยาการทหาร ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในอินโดนีเซียและเม็กซิโกให้เริ่มการทดลองเฟสที่ 3 แล้ว
วัคซีนเออาร์โควีของจีนนั้น เกิดจากการร่วมพัฒนาของวาลแว็กซ์และอ้ายโป๋เพื่อผลิตวัคซีนโรคงูสวัด และผลการทดลองที่ออกมาก็จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนในการใช้เทคโนโลยีชั้นนำอย่าง mRNA ซึ่งมีศักยภาพที่จะนำไปใช้ต่อสู้กับโรคอื่นๆ ต่อไป ตั้งแต่ไข้หวัดใหญ่ไปจนถึงมะเร็ง
การทดลองดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมมากถึง 30,000 คน และเมื่อใดที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 รายในการทดลอง คณะผู้วิจัยก็จะสามารถเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้ง่าย
“ผมมั่นใจว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเทียบได้กับประสิทธิภาพของวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค” นายหวงกล่าว
ทั้งนี้ วัคซีนของไฟเซอร์ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาติตะวันตกรวมถึงสหรัฐ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบแสดงอาการในการทดลองเฟสที่ 3 และยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันสายพันธุ์เดลตา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 64)
Tags: ARCoV, วัคซีนต้านโควิด-19, วาลแว็กซ์ ไบโอเทคโนโลยี, หวง เจิ้น, เออาร์โควี