นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวถึงความผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่รับรอง แต่ยังสั่งซื้อเข้ามาฉีดให้กับคนไทย และมีหลายประเทศบริจาควัคซีนให้ แต่กลับไปจัดสรรวัคซีนให้กับคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี โดยไม่จัดลำดับความสำคัญ รวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ที่ไปจัดซื้อยี่ห้อที่คุณภาพต่ำ
ทั้งนี้ นายสงคราม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจัดคนไม่ตรงกับสายงาน จัดคนของตัวเองมาทำหน้าที่แทน เพราะกลัวคนอื่นมาแย่งผลประโยชน์ เช่น ในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาทำหน้าที่บริหารสถานการณ์โควิด ทำให้บุคลากรทางการแพทย์อ่อนกำลัง และที่ผ่านมาก็ตั้งตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ไม่ยอมให้คนมีความสามารถมาดูแล และวันนี้ตั้งตัวเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ สุดท้ายก็ทำงานล้มเหลวทั้งหมด
ส่วนการจัดซื้อหน้ากากอนามัย มีข้าราชการรัฐวิสาหกิจไปอนุมัติแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงนามในสัญญาจัดซื้อหน้ากากอนามัย มูลค่านับแสนล้านบาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 2,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลกลับปล่อยให้เรื่องเงียบหาย และไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง รวมถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน และพูดคุยกับเจ้าสัวด้วยท่าทีที่นอบน้อม
นายสงคราม กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เดินหน้าการปฏิรูป ไม่ว่าเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ กลัวเกิดการแข่งขันเสรีจนมีอำนาจต่อรองรัฐบาลมากขึ้น และไม่ปฏิรูปการศึกษา เพราะกลัวประชาชนรู้เท่าทัน หากประชาชนตื่นตัวจะเกิดการต่อต้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงขอให้ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล 40-50 เสียง ช่วยกันขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง เพื่อได้ช่วยกันทำลายระบบประยุทธ์ และเชื่อว่าประเทศชาติจะดีขึ้นกว่าเดิม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 64)
Tags: ชุดตรวจโควิด, พรรคเพื่อชาติ, สงคราม กิจเลิศไพโรจน์, หน้ากากอนามัย, อภิปรายไม่ไว้วางใจ