นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดบวกก่อนย่อลงจากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีฯขึ้นไปกว่า 100 จุดหรือราว 8% ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เล็งกลุ่มพลังงานกดดันหลังราคาน้ำมันฟิวเจอร์ส-ค่าการกลั่น-สเปรดปิโตรเคมีย่อตัว นอกจากนี้ MSCI Rebalance มีผลวันนี้จะปรับลดหุ้นไทยราว 0.03% คิดเป็น 112 ล้านเหรียญฯ หรือ 3,600 ล้านบาท แม้ไม่มากแต่อาจเพิ่มแรงขายช่วงบ่าย พร้อมให้แนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,642 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเปิดในแดนบวกก่อนที่จะเริ่มย่อตัวลงจากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีฯขึ้นไปกว่า 100 จุดหรือราว 8% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สเช้านี้ก็เริ่มย่อตัวลงหลังพายุเฮอริเคนได้ลดความรุนแรงลง ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกน่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ อีกทั้งค่าการกลั่นและสเปรดปิโตรเคมีก็ย่อลงด้วย อาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ MSCI Rebalance จะมีผลวันนี้ จะมีการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยราว 0.03% คิดเป็น 112 ล้านเหรียญฯ หรือ 3,600 ล้านบาท ซึ่งแม้จะไม่มากแต่ก็อาจเป็นการเพิ่มแรงขายในตลาดฯ ช่วงบ่าย ๆ อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการเทรดของนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง อีกทั้งติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในเร็ว ๆ นี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯศุกร์นี้ รวมทั้งจับตาทิศทางค่าเงินบาทหลังปลดล็อกดาวน์วันที่ 1 ก.ย.นี้ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีแค่ไหน
พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,642 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,399.84 จุด ลดลง 55.96 จุด (-0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,528.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.42 จุด (+0.43%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,265.89 จุด เพิ่มขึ้น 136.39 จุด (+0.90%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,519.02 จุด ลดลง 9.13 จุด (-0.26%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,690.77 จุด ลดลง 98.52 จุด (-0.35%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,524.23 จุด ลดลง 15.31 จุด (-0.06%)
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ส.ค.) 1,633.77 จุด เพิ่มขึ้น 22.57 จุด (+1.40%)
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,051.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ส.ค.) ปิด 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.68%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ส.ค.) อยู่ที่ 3.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.43/45 แนวโน้มแข็งค่าหลังโควิดดีขึ้น-เงินทุนไหลเข้า
– คลังรับเศรษฐกิจไทยยังซมพิษโควิด-19 ประชาชนกังวลระบาดหนัก กระทบการลงทุน-ใช้จ่ายชะลอ ห่วงคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมฉุดภาคการผลิต ฟุ้งส่งออกยังแกร่งโตต่อเนื่อง 5 เดือนติด ท่องเที่ยวเริ่มฟื้น ต่างชาติแห่เข้าไทยคึกคักรอบ 16 เดือน
– รมว.อุตสาหกรรม เผยสถานการณ์ภาคการผลิตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นโดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกรกฎาคม 2564 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปที่มีความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้นภาคการผลิตของไทยจึงได้รับอานิสงส์ผลิตเพื่อส่งออกได้มากขึ้น โดยการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง
– ครม.อนุมัติ 4,745 ล้าน ซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่ม 10 ล้านโดส ดันยอดไฟเซอร์รวม 30 ล้านโดส งบ 1.4 หมื่นล้าน เผยค่าวัคซีนที่ไทยจ่ายทุกชนิดล่าสุด 3.9 หมื่นล้านบาท เร่งสปีด 4 เดือนสุดท้ายจัดหามากถึง 79.3 ล้านโดส สธ.ชี้ฉีดเข็ม 3 คนทั่วไปเร็วขึ้นภายในต.ค. ส่วน ATK ลงนามสัญญาแล้วส่งมอบล็อตแรก 7 ก.ย. 2 ล้านชิ้น ครบ 8.5 ล้านชิ้นภายใน 14 วัน ด้าน สปสช.ลุยบริการตรวจโควิด ATK พนง.ภาคบริการฟรี 3 วัน รองรับคลายล็อกดาวน์
– ฝ่ายค้านจัดหนักซักฟอก “ตู่-หนู” 33 ชั่วโมงรวด พท.กำชับ ส.ส.ห้ามแหกคอก ขู่เด็ดหัวพวกแตกแถว “ประเสริฐ” ฟุ้งมีแคนดิเดตนายกฯรอรับศึกเลือกตั้งแล้ว “โจ้” จ้องขย้ำ ทร.จัดซื้อเรือ LPD “อนุดิษฐ์” ลากทัพฟ้าขึ้นเขียง จัดซื้ออาวุธไม่ชอบมาพากล “พิชัย” มั่นใจ “ประยุทธ์” คาเขียงแน่ ก้าวไกลป้ายหัว “คารม” ทรยศประชาชน “บิ๊กตู่” ย้ำในวง ครม.รัก-สามัคคีกันไว้ ปธ.วิป รบ.ขอให้ลากกันไปจนถึงที่สุด “ชัยวุฒิ” ทำใจผลโหวตไม่เท่ากัน “เสี่ยหนู” ย้ำทำงานบนหลักวิชาการ ส.ว.ไฟเขียว พ.ร.บ.งบฯ 65
หุ้นเด่นวันนี้
– HMPRO (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 16.50 บาท ราคาหุ้นลดลงสะท้อนข่าวปิดสาขาจากคำสั่งล็อกดาวน์ 29 จังหวัดไปแล้ว สัปดาห์นี้ได้ Sentiment บวกเปิดห้างฯ ขณะที่ราคาค่อนข้าง Laggard เมื่อเทียบกับกลุ่ม โดย YTD เพิ่มขึ้นเพียง 4.4% เทียบกับกลุ่มเพิ่มขึ้น 10-30% และ SET+12%
– TACC (ฟินันเซีย ไซรัส)”ซื้อ”เป้า 8.50 บาท คาดกำไร Q3/64 ทรงตัวถึงปรับขึ้น Q-Q แม้อยู่ในช่วงล็อกดาวน์ แข็งแกร่งกว่ากลุ่มค้าปลีกและอาหารอื่นๆ และได้อานิสงส์จาก WFH จาก All Cafe ขายดี ขณะที่ Q4/64 จะเร่งตัวชัดเจน นอกจากนี้ ได้ประโยชน์โดยตรงจากการ Reopening ทำให้ Traffic เข้า 7-11 มากขึ้น นอกจากนี้การเติบโตระยะยาวหนุนจากการขยายเครื่องดื่มเข้า Lotus’s และ All Cafe ใน 7-11 ที่กัมพูชา โดยล่าสุดเริ่มเปิดสาขาแรกแล้ว
– TSE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 3 บาท รับรู้โครงการ Floating Solar 8MW เต็มไตรมาสใน Q3/64, Q4/65 เตรียม SCOD Solar ญี่ปุ่นอีก 147 MW และติดตาม M&A ทั้งในไทยและต่างประเทศ, ลุ้นกำไร Q3/64 โต QoQ จากโครงการใหม่และ Seasoning ของ Solar จะผลิตไฟได้มากใน Q2-3/64 พร้อมประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 610 ลบ. และ 628 ลบ. +45%YoY, +3%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ส.ค. 64)
Tags: SET, กิติชาญ ศิริสุขอาชา, ตลาดหุ้นไทย, บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี, หุ้นไทย