นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าววานนี้ว่า สิงคโปร์ต้องเปลี่ยนแผนจากการนำเงินทุนสำรองมาใช้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน มาเป็นการนำไปใช้เพื่อก่อให้เกิดการเติบโต การสร้างงาน และความเจริญรุ่งเรืองในมิติใหม่เพื่ออนาคต
ทั้งนี้ นายลีได้เน้นย้ำว่า สิงคโปร์จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายในอนาคตใหม่ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนในโอกาสวันชาติสิงคโปร์ประจำปีนี้ หรือ National Day Rally Speech 2021
นายลีกล่าวว่า สิงคโปร์จำเป็นต้องรักษาความเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงขยายการเติบโตของบริษัทและผู้ประกอบการของสิงคโปร์ เพื่อให้เกิดการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยังย้ำถึงประเด็นสำคัญในการกลับมาเปิดประเทศโดยเร็ว และอนุญาตให้ประชาชนเดินทางเข้ามาและออกจากสิงคโปร์อย่างปลอดภัยได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพราะพนักงานของบรรษัทข้ามชาติหลายแห่งซึ่งมีสำนักงานประจำภูมิภาคตั้งอยู่ในสิงคโปร์ และนักธุรกิจชาวสิงคโปร์มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานประกอบธุรกิจในประเทศอื่นๆ
“หากเราปิดพรมแดนเป็นเวลานาน บรรษัทข้ามชาติจะมองว่าเราด้อยลง ธุรกิจของสิงคโปร์ก็จะได้รับผลกระทบด้วย และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในระยะยาว”
นายลีกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ได้ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของปีนี้ สู่ระดับ 6-7% จาก 4-6% โดยนายลีกล่าวในสุนทรพจน์ว่า กระทรวงฯ มีความมั่นใจมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว
นายลีระบุว่า “เศรษฐกิจของสหรัฐและจีนกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนยุโรปก็กำลังฟื้นตัว ทั้งหมดนี้คือตลาดหลักของเรา”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 64)
Tags: lifestyle, การลงทุน, ลี เซียนลุง, สิงคโปร์