รัฐบาลญี่ปุ่นเผยยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ เนื่องจากภาคผู้บริโภคยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สร้างความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มการใช้จ่ายก็ตาม
รายงานระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้รัฐบาลต้องขยายเวลาการประกาศมาตรการฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอตัว
ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 2.1%
เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.1%
มาร์เซล ธีเลียน นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ระบุว่า “ความแข็งแกร่งของยอดค้าปลีกในช่วงที่ผ่านมาไม่น่าจะยั่งยืน”
ธีเลียนกล่าวว่า “การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาระลอกที่รุนแรงกำลังส่งผลกระทบต่อประเทศ ประกอบกับรัฐบาลญี่ปุ่นขยายมาตรการฉุกเฉินเพิ่มอีกหลายจังหวัดซึ่งส่งผลให้การบริโภคปรับตัวลดลงอีกครั้งในไตรมาสนี้”
ทั้งนี้ กระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกที่พุ่งสูงเกินคาดได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับสินค้าเช่น เชื้อเพลิง รถยนต์ เสื้อผ้า สินค้าทั่วไป และอาหาร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 64)
Tags: ญี่ปุ่น, มาร์เซล ธีเลียน, ยอดค้าปลีก, เศรษฐกิจญี่ปุ่น