คณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นตัดสินใจในวันนี้ที่จะใช้เงิน 1.4 ล้านล้านเยน (1.3 หมื่นล้านดอลลาร์) จากกองทุนสำรองปีงบประมาณ 2564 เพื่อสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มเติม รวมถึงการจัดหายาสำหรับผู้ป่วย
รายงานระบุว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 8.415 แสนล้านเยนเพื่อจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและส่งเสริมการฉีดวัคซีน ขณะที่ประเทศกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ 2.352 แสนล้านเยนเพื่อจัดซื้อยาคาซิริวิแมบ (Casirivimab) และอิมเดวิแมบ (Imdevimab) เพื่อฉีดให้แก่ผู้ป่วยผ่านทางหลอดเลือดในการรักษาโดยใช้ยาแอนติบอดีแบบผสมหรือแอนติบอดีค็อกเทล (Antibody cocktail) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต
มาตรการด้านงบประมาณมีขึ้น 2 วันหลังจากนายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลจะเร่งตอบสนองต่อประเด็นเร่งด่วน เช่น การจัดหาวัคซีนและยาให้เพียงพอสำหรับการรักษาด้วยวิธีแอนติบอดีค็อกเทล โดยการนำเงินทุนสำรองมาใช้
นายซูงะระบุว่า ญี่ปุ่นซึ่งดำเนินการฉีดวัคซีนล่าช้าเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้ก่อนกำหนดในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 64)
Tags: COVID-19, ญี่ปุ่น, ทาโร่ อาโสะ, ยารักษาโควิด-19, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, โควิด-19, โยชิฮิเดะ ซูงะ