สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ร่วงลง 2.7% แตะที่ 2.98 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.155 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปิดร้านค้าและการบริการในเมืองขนาดใหญ่ของออสเตรเลีย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนับเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียมีแนวโน้มหดตัวลงอย่างรุนแรงในไตรมาส 3 เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ลดลง 1.8% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลเริ่มออกมาตรการควบคุมการเดินทาง นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ยังร่วงลงรุนแรงที่สุดในปีนี้ และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 2.3%
ทั้งนี้ ภาคค้าปลีกของออสเตรเลียซึ่งมีสัดส่วนราว 18% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นั้น คาดว่าจะชะลอตัวลงอีกในเดือนส.ค. เนื่องจากรัฐบาลยังคงล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นและแคนเบอร์รา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 64)
Tags: ค้าปลีก, ออสเตรเลีย, เศรษฐกิจออสเตรเลีย