นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบตามตลาดหุ้นทั่โลก โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้ก็แกว่งแคบช่วงรอผลประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็คสันโฮล ส่วนบ้านเราดัชนีฯขึ้นมาแถว 1,600 ทำให้ upside จำกัด มองกรอบแกว่ง 1,595-1,600 จุด หุ้นขนาดใหญ่อาจเริ่มนิ่ง เล็งแรงขายทำกำไรกลุ่มส่งออก-อิเล็กทรอนิกส์หลังเงินบาทแข็ง ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดในประเทศดีขึ้นคาดหวังการผ่อนคลายล็อกดาวน์
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็แกว่งแคบ ระหว่างรอการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมืองแจ็คสันโฮลในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้จะส่งสัญญาณอย่างไร
นอกจากนี้ ดัชนีฯได้ขึ้นมาแถว 1,600 จุด ทำให้ตลาดมี upside จำกัด โดยให้กรอบแกว่งวันนี้ไว้ที่ 1,595-1,600 จุด ซึ่งหุ้นขนาดใหญ่เริ่มนิ่ง หลังต่างชาติซื้อหุ้นไทยมา 2 วันและเข้าซื้อพันธบัตรด้วย ทำให้ช่วงสั้นเงินบาทแข็งค่าเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมาได้
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันไม่ทำนิวไฮและต่ำกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน ทำให้ยังมีความคาดหวังการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ได้
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,405.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.24 จุด (+0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,496.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด (+0.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,041.86 จุด เพิ่มขึ้น 22.06 จุด ( +0.15%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.07 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 68.83 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 20.17 จุด
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.) 1,600.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด (+0.85%)
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,649.80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ส.ค.) ปิด 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.2%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.) อยู่ที่ 2.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.73 แข็งค่าสุดในภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 32.65 – 32.80
– รมว.คลังยึดเวทีไทยแลนด์โฟกัส 2021 โรดโชว์กองทุนต่างชาติ ลั่นพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันจีดีพีปีหน้าขยายตัวเข้าเป้า 4-5% ยันพร้อมเพิ่มเพดานหนี้รองรับ แย้มตรึงดอกเบี้ยต่ำยาวจนกว่าเศรษฐกิจฟื้น ขณะที่ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้ความเสี่ยงเศรษฐกิจ “ขาลง” เริ่มจำกัดมั่นใจรัฐอัดฉีดเพิ่ม ด้านสธ.เปิดแผนนำเข้าวัคซีน 4 เดือนท้ายกว่า 70 ล้านโดส
– ศบค.เผยยอดเสียชีวิตแตะหมื่นรายเร่งจัดหาวัคซีนฉีดตามแผนปี 64 ด้าน 8 สมาคมธุรกิจเสนอแผนเปิดกิจการ 3 ระยะค้าปลีกเตรียมพร้อมเปิดเมือง 1 ก.ย.หวังเดินหน้าเศรษฐกิจไทย ยึด 7 มาตรการปลอดภัยขั้นสูงสุด สมาคมภัตตาคารไทยเข้มมาตรการด้านพนักงานต้องปลอดโรค ปลุกเชื่อมั่นลูกค้า
– ตลท.เผย กองทุนต่างชาติ 110 ราย แห่ร่วมงานไทยแลนด์โฟกัส เหตุ บจ.ไทยแข็งแกร่ง กว่า 47% แข่งขันได้ระดับโลกดึงรายได้เข้าประเทศ ปรับตัวเร็วในช่วงโควิด “บล.เอเซียพลัส” ชี้ช่วงจัดงานไทยแลนด์โฟกัสมีโอกาส 80% ดันดัชนี ด้านนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิติดต่อเป็นวันที่ 3 อีก 3.6 พันล้าน
– สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 52,442 คัน เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 11.62% และลดลงจากเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คิดเป็น 15.08% จากล็อกดาวน์ส่งผลให้ลูกค้ายกเลิกการจองรถหรือเลื่อนการรับรถออกไป รวมถึงสถาบันการเงินมีการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อและมีการชะลอการผลิตรถยนต์รุ่นที่นิยมจากการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนรถยนต์
– “พาณิชย์” เปิดยอดตั้งบริษัทใหม่เดือน ก.ค.64 ลด 7% จากเดือนก่อน ชี้ล็อกดาวน์เบรกโควิด-19 กระทบกิจกรรมเศรษฐกิจความเชื่อมั่นชะลอ ลุ้นครึ่งหลังฟื้นตัวหลังผู้ติดเชื้อเริ่มลด รัฐบาลเร่งเครื่องกระจายวัคซีน เดินหน้าอัดฉีดเศรษฐกิจ
หุ้นเด่นวันนี้
– BCPG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 23 บาท แนวโน้มกำไร Q3/64 เติบโตแข็งแกร่ง Q-Q จากการผลิตไฟฟ้าดีขึ้นของ Nam San การหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าความร้อนใต้ภิภพน้อยลง และ Solar Farm ในไทยและญี่ปุ่นที่ดีขึ้นจากปัจจัยฤดูกาลชดเชยลมในฟิลิปปินส์ที่อ่อนตัว ระยะยาวมองบวกต่อกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติม รวมถึง Synergy กับธุรกิจแบตเตอรี่ใน VRB Energy โดยคาดกำไรปี 2564 +17 Y-Y
– CPN (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 58.50 บาท ดักเก็งกำไรคาดหวังประชุม ศบค.ผ่อนคลายมาตรการให้ภาคธุรกิจสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ทั้งกลุ่มห้างสรรพสินค้าและกลุ่มร้านอาหาร
– BPP (คิงส์ฟอร์ด)”ซื้อ”เป้า IAA Consensus 20.60 บาท ผลงาน H2/64 ยังเติบโตต่อเนื่อง จะรับรู้กำลังการผลิตใหม่เพิ่มกว่า 700 MW จากโรงไฟฟ้าก๊าซ Temple I ในสหรัฐฯ กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 384 MW ปัจจุบัน COD แล้วรับรู้ Q4/64 ยังเตรียมรับรู้ขายไฟฟ้า SLG 396MW และ El Wind Mui Dinh เวียดนาม 38MW ใน Q3/64 ส่วนโครงการที่กำลังก่อสร้าง เช่น Vinh Chau Phase 1 30MW และ Solar Japan 2 รวม 30MW คาด COD ช่วง Q3/64-Q4/64 ยังพร้อมลงทุนโครงการใหม่เพื่อบรรลุเป้า 5,300MW ในปี 68
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 64)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, บล.กสิกรไทย, สรพล วีระเมธีกุล, หุ้นไทย