ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยผลวิจัยระบุว่า ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังติดเชื้อมากขึ้นถึง 29 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
ผลวิจัยครั้งนี้เผยแพร่ในรายงานการป่วยและการเสียชีวิตของประชากรประจำสัปดาห์ของ CDC โดยระบุว่า จากการเก็บข้อมูลในพื้นที่ลอสแองเจลิสระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-25 ก.ค. พบว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วถึง 5 เท่า
“ข้อมูลเรื่องอัตราการติดเชื้อและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนี้ บ่งชี้ว่าวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการติดเชื้อที่แสดงอาการหนัก ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตามากขึ้น” CDC ระบุในรายงาน
ผลวิจัยครั้งนี้สอดคล้องกับความเห็นจากบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งได้ให้ข้อมูลตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ประชาชนชาวอเมริกันที่ไม่ฉีดวัคซีนตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรงที่จะติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา ซึ่งในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้ง่ายที่สุด
แพทย์หญิงโรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC กล่าวว่า ข้อมูลผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า “หากไม่ฉีดวัคซีน คุณก็จะอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด” โดยเธอกล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า “อย่าประเมินความเสี่ยงและผลร้ายแรงจากเชื้อไวรัสตัวนี้ต่ำเกินไป” และ “วัคซีนเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เรามีในการควบคุมการแพร่ระบาดครั้งนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ส.ค. 64)
Tags: CDC, COVID-19, lifestyle, ฉีดวัคซีนโควิด, วัคซีนต้านโควิด-19, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ, โควิด-19