บช.น.แนะเลี่ยงการจราจรใกล้ 2 จุดชุมนุมหลัก ทั้งอนุสาวรีย์ปชต.,แยกดินแดง

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า การนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้มี 2 จุดหลัก คือ สี่แยกคอกวัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และสามเหลี่ยมดินแดง ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้เลี่ยงเส้นทางที่จะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมดังนี้ 1.ถนนราชดำเนินใน 2.ถนนราชดำเนินกลาง 3.ถนนราชดำเนินนอก 4.ถนนตะนาว 5.ถนนดินสอ 6.ถนนลูกหลวง 7.ถนนหลานหลวง (แยกหลานหลวง-แยกผ่านฟ้า) 8.ถนนประชาธิปไตย 9.ถนนนครราชสีมา 10.ถนนนครสวรรค์ 11.ถนนพิษณุโลก 12.ถนนศรีอยุธยา 13.ถนนพระราม 5 และ 14.สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

ส่วนที่จะมีการรวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนราชวิถี ถนนดินแดง ถนนวิภาวดี ถนนพหลโยธิน (ซอย 2) ถนนพญาไท นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องควบคุมการจราจรโดยปิดบริเวณทางลงด่วนดินแดง และทางลงด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ ด้วย

ส่วนตามสี่แยกต่างๆ ที่ตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรได้รับความเสียหายหลายแห่งนั้น เบื้องต้นได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคอยอำนวยความสะดวกตามสี่แยกต่างๆ ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อไม่ให้การจราจรตามแยกต่างๆ ติดขัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานเร่งดำเนินการซ่อมสัญญาณไฟจราจรให้แล้วเสร็จ

พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังชี้แจงถึงการจัดการจราจรในช่วงที่มีการชุมนุม โดยเฉพาะบริเวณถนนดินแดง และถนนวิภาวดีรังสิตของกลุ่มทะลุแก๊สที่มักมีประชาชน และผู้ใช้รถใช้ถนนที่ไม่ทราบว่าเริ่มมีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วขับรถเข้าไปภายในจุดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนเกิดการร้องเรียนกับสื่อมวลชนหลายครั้ง เบื้องต้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละจุด พบว่าได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นปิดการจราจรแล้ว และให้ตำรวจจราจรยืนประจำการในแต่ละจุด แต่เมื่อการชุมนุมรุนแรงขึ้น พบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำแผงเหล็กที่นำมากั้นไว้ออก จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและขับรถเข้าไปในจุดดังกล่าว

ทั้งนี้ การทำงานยังต้องประสานกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม และนำไปปรับใช้กับการปิดการจราจรในพื้นที่ ทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงานค่อนข้างมาก แต่หลังจากนี้ จะนำข้อมูลความต้องการของประชาชนไปปรับแก้ให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top