นายเจค ไคลน์ ประธานบริหารของบริษัท Evolution Mining ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ของออสเตรเลียกล่าวว่า การที่สกุลเงินคริปโตมีความผันผวนอย่างหนักในขณะนี้ อาจจะผลักดันให้นักลงทุนบิตคอยน์หันไปลงทุนในทองคำในท้ายที่สุด
นายไคลน์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box Asia” ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ในวันนี้ว่า บิตคอยน์ยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกลก่อนที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความยั่งยืนและปลอดภัย ตรงข้ามกับทองคำที่สามารถพิสูจน์ให้นักลงทุนได้เห็นแล้วในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา
“สกุลเงินคริปโตเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการเก็งกำไร และผมคิดว่าในท้ายที่สุดแล้ว ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตจะทำให้นักลงทุนหันกลับไปลงทุนในทองคำ”
นายไคลน์กล่าว
ทั้งนี้ ราคาทองคำร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลงอีก โดยนายเดวิด นูฮาวเซอร์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์เปิดเผยกับ CNBC ว่า การร่วงลงอย่างหนักของราคาทองคำถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อในขณะนี้
ด้านนายเดวิด ไทซ์ ผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า ขณะนี้ถือเป็น “ช่วงเวลาที่อันตรายอย่างมาก” ในการลงทุนในบิตคอยน์
“เราได้เข้าซื้อบิตคอยน์ตั้งแต่ราคายังอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากที่ราคาพุ่งแตะ 60,000 ดอลลาร์ เราก็รู้สึกว่าราคาได้เพิ่มขึ้นมากเกินไปแล้ว นอกจากนี้ ธนาคารกลางหลายแห่งยังได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับการลงทุนในบิตคอยน์ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากในการถือครองบิทคอยน์ในวันนี้”
นายไทซ์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 64)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, Evolution Mining, คริปโตเคอเรนซี, คริปโทเคอร์เรนซี, ทองคำ, บิตคอยน์, ออสเตรเลีย, เจค ไคลน์, เดวิด ไทซ์, เหมืองทองคำ