นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี (TKS) เปิดเผยว่า การกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ และขยายตัวเป็นวงกว้างในขณะนี้นั้น มองว่าอาจส่งผลกระทบต่อโอกาสที่จะได้งานใหม่ต้องล่าช้าหรือเลื่อนกำหนดออกไปบ้าง แต่เชื่อว่าทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับบริษัทฯ มีการวางแผนขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมองหาโอกาสเข้าร่วมประมูลงานจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐซึ่งบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญและถนัด คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายจากการขายและการให้บริการปีนี้จะเติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ
ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการทำตลาดของธุรกิจลาเบล (Label) และแพคเกจจิ้งให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก โดยเฉพาะแพคเกจจิ้ง เป็นเทรนด์ที่มีความต้องการใช้งานสูง พร้อมกันนี้บริษัทยังพิจารณาที่จะทำคลังสินค้า โดยบริษัทมีฐานลูกค้าบ้างแล้วในกลุ่ม B2B และเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอีกทางในอนาคตด้วย
ล่าสุด TKS อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ซึ่งหลังจากจับมือเป็นพันธมิตรกับ SABUY คาดว่าจะเข้ามาช่วยเสริมในส่วนของ Fintech Ecosystem
ทั้งนี้ ธุรกิจด้าน ไอที ที่ดำเนินการโดย บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่ TKS ถือหุ้น 38.5% มีแนวโน้มในครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่น โดยมีสินค้าใหม่จะทยอยเปิดตัวและวางจำหน่าย กระตุ้นตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนให้คึกคัก คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่ต้องการนำสินค้าเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมทั้ง การ Work From Home ซึ่งจะกลายเป็นชีวิตวิถีใหม่ และการปรับตัวขององค์กรธุรกิจ ทำให้สามารถต่อยอดการให้บริการซอฟท์แวร์ และโซลูชั่นต่างๆ ผลักดันกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียลให้เติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกัน
ส่วนผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 2/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 116.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 198.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.1 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 489.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 446.5 ล้านบาท โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าประเภทฉลากสินค้า และบัตรพลาสติก ภายหลังจากการชะลอโครงการของลูกค้ากลุ่มธนาคารและภาคการส่งออก จากผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในระหว่างปี 63
“บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต และควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น โดยไตรมาส 2/64 มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 142.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 88.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 61.2% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ประกอบกับบริษัทฯได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการค้าร่วมเพิ่มขึ้น 17.9 ล้านบาท หรือ 28.3% ทำให้บริษัทมีภาพรวมผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น”
นายจุติพันธุ์ กล่าว
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 223.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 171.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.5 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 960.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.4๔ จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 937.9 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 28.8% เพิ่มสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 20.8%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 64)
Tags: TKS, จุติพันธุ์ มงคลสุธี, ที.เค.เอส.เทคโนโลยี, หุ้นไทย