นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดไตรมาส 2/64 มีกำไรสุทธิจำนวน 85.70 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 6.83 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 531.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 139.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.45%
เนื่องจากรายได้จากการรักษาพยาบาล 473.52 ล้านบาท เติบโตขึ้น 39.68% ตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 25% ขณะที่ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจนจำนวนเตียงพักผู้ป่วยไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคนไข้เฉพาะทางที่ชำระเงินสดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับหลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 25% และปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลจนเตียงพักผู้ป่วยไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ คาดว่าในช่วงไตรมาส 3/64 ยอดผู้ป่วยโควิด จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/64 มากกว่า 100% ส่งผลทำให้รายได้และกำไรจะทำจุดสูงสุดตั้งแต่โรงพยาบาลเปิดดำเนินการมากว่า 28 ปี โดยคนไข้ที่มาคัดกรองตรวจโควิดมีจำนวนมาก และพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้จำนวนเตียงไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวนเตียงในโรงพยาบาลรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงจำนวน 60 เตียง เต็ม 100% และ Hospitel แบ่งเป็นสีเขียว 400 เตียงและสีเหลืองอ่อน 200 เตียง มีผู้ป่วยโควิด เต็มจำนวน โดยในเดือนก.ค. ทำสัญญาเพิ่ม Hospitel สีเขียวอีก 1 แห่ง จำนวน 300 เตียง รวมเป็น 1,000 เตียง
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/64 คาดจะเริ่มนำเข้าวัคซีนโควิด-19 (โมเดอร์น่า) ที่โรงพยาบาลสั่งซื้อผ่านสมาคมโรงพยาบาลเอกชนและองค์การเภสัชกรรม เป็นทางเลือกให้กับประชาชน โรงพยาบาลได้รับจัดสรรและชำระเงินแล้ว ประมาณ 40,000 โดส มีผู้สนใจจองเต็มจำนวน คาดว่าเริ่มนำเข้ามาในเดือน ต.ค. และในเดือน ส.ค.จะมีการจัดซื้อและจัดสรรเพิ่มในล็อตที่ 2 โดยจะเป็นวัคซีนโมเดอร์น่าเวอร์ชันใหม่ที่สามารถป้องกันได้ทุกสายพันธุ์ คาดว่าจะเข้ามาประมาณไตรมาส 1/65
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ประมาณการรายได้และกำไร ปี 64 จะเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยรายได้จะเพิ่มขึ้น 25-30% ส่วนกำไรเพิ่มมากกว่า 150% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายอังกูร กล่าวว่า ส่วนบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบ และวิจัยด้านเกษตร อาหาร และยา ภายใต้บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (AMARC) ซึ่งทางโรงพยาบาลถือหุ้น 97% ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้มีการแปรสภาพเพื่อระดมทุนในตลาด mai โดยสัดส่วนหุ้น ที่ AMARC จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 30 คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งภายในไตรมาสที่ 4/64 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับผลประกอบการของ AMARC ในครึ่งปีแรกรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 15% กำไรใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยประมาณการปีนี้หลังสถานการณ์โควิด ภาครัฐยกเลิกล็อกดาวน์ สถานประกอบการเปิดโรงงานและส่งออกสินค้าได้มากขึ้น คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 20-25% กำไรเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับปีก่อน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 64)
Tags: LPH, หุ้นโรงพยาบาล, หุ้นไทย, อังกูร ฉันทนาวานิช, โรงพยาบาลลาดพร้าว