นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)หรือ EEC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กพอ. ครั้งที่ 2/2564 ได้รับทราบโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ที่คณะทำงานเจรจาร่างสัญญาฯได้ดำเนินการเสร็จแล้วและได้ส่งให้อัยการสูงสุด ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดกำลังพิจารณา คาดว่าน่าจะเซ็นสัญญาได้ในสิ้นเดือนส.ค.นี้
โดยเอกชนคู่สัญญาคือ กลุ่ม GPC ประกอบด้วย บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี โดยเอกชนเสนอผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำที่ภาครัฐจะได้รับ ระยะที่ 1 ค่าสัมปทานคงที่เท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV) ที่ 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปร ที่ 100 บาทต่อทีอียูต่ำกว่าที่รัฐคาดไว้ที่ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 32,225 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 64)
Tags: EEC, GULF, PTT TANK, กพอ., กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, คณิศ แสงสุพรรณ, ท่าเรือแหลมฉบัง, พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง