นายประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่โครงการต่างๆที่บริษัทได้ลงทุนในประเทศออสเตรเลียยังคงมีผลประกอบการที่ดี โดยครึ่งปีแรกของปี 64 ยอดทำสัญญาและยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการศุภาลัยในออสเตรเลียเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 63
โดยที่ยอดสัญญาในครึ่งปีแรกของปี 64 ทำได้ 3.52 พันล้านบาท เทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อนที่ 561.5 ล้านบาท โดยมีโครงการที่สร้างรายได้ให้บริษัทสูงถึง 3 โครงการจากทั้งหมด 11 โครงการ คือ Balmoral Quay, New Haven และ Katalia และคาดหวังว่าทั้ง 3 โครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อกิจการของบริษัทในประเทศออสเตรเลียต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง 64 และปี 65
โครงการ Katalia เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับ Stockland ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย โครงการนี้มีทุนเรือนหุ้นราว 2.5 พันล้านบาท เพิ่งเปิดขายไปเมื่อไตรมาส 4/63 และสามารถทำยอดขายในอัตราต่อเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานของออสเตรเลีย
ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งปีแรกของปี 64 จากโครงการในออสเตรเลีย ทำได้ 1.72 พันล้านบาท สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 767.6 ล้านบาท โดยโครงการ Gen Fyansford ซึ่งจัดสรรที่ดินบนทำเลเหมืองหินปูนเดิม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมือง Geelong ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Melbourne มียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด
“บริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการต่างๆในประเทศออสเตรเลียจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในด้านรายได้ ทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายด้านผลประกอบการที่ตั้งเอาไว้ในปี 64”
นายประศาสน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 64)
Tags: SPALI, ประศาสน์ ตั้งมติธรรม, ศุภาลัย, หุ้นไทย, อสังหาริมทรัพย์, เศรษฐกิจโลก