นางสาวพรวิสาข์ มังกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) เข้าจดทะเบียนและซื้อขายหน่วยทรัสต์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 9 ส.ค.นี้ หลังจากที่ปิดการเสนอขายหน่วยทรัสต์แก่นักลงทุนเป็นที่เรียบร้อยในปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาหน่วยละ 10 บาท และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน แม้อยู่ในช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ความสำเร็จในการเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพของ INETREIT กองทรัสต์กองแรกที่เข้าลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคตที่มีแนวโน้มเติบโตไปพร้อมกับยุคดิจิทัล โดยเชื่อว่าการที่กองทรัสต์ INETREIT เข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลที่มีความทันสมัยระดับโลก อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร 24 ชั่วโมง สามารถเชื่อมต่อกับโครงการ INET-IDC 1 และ INET-IDC 2 อย่างสมบูรณ์แบบ จะได้รับประโยชน์จากความต้องการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลและเพิ่มขึ้นทุกวันไว้ในระบบคลาวด์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง
“บริษัทต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นและตอบรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์ของ INETREIT ที่ดีมาก แม้สถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยต่างๆ เข้ามากดดันบรรยากาศการลงทุน กองทรัสต์ INETREIT จะได้รับปัจจัยบวกจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและจัดเก็บข้อมูลสู่ดิจิทัล (ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น) ของภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในระบบคลาวด์”
ทั้งนี้ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี มีลูกค้าภาครัฐและเอกชนใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่มีจำนวนมหาศาลในยุคดิจิทัล และเป็นส่วนหนึ่งของการดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นองค์กร แสดงถึงความต้องการใช้งานระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย INETREIT ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับในปีแรก ตามประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ตามงบกำไรขาดทุนตามสมมติฐานอยู่ที่ 8.96% สำหรับช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 ถึง 31 มี.ค.65
นางสาวพรวิภา ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนสำหรับกระแสการตอบรับที่ดีที่ผ่านมา การลงทุนในกองทรัสต์เป็นการถือสินทรัพย์ทางเลือกที่ช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มั่นคงในระยะยาว
นายอภิชาติ เนตรจรัสแสง ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ KBANK ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ INETREIT เป็นทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวจากเงินปันผล โดยการเข้าลงทุนครั้งแรกมีมูลค่ารวม 4,300 ล้านบาท มาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ 330 ล้านหน่วย ที่ราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่า 3,300 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาว 1,000 ล้านบาท INETREIT มีจุดเด่นเป็นกองทรัสต์ ที่ลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที ในประเทศไทยกองแรก ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่จะได้รับประโยชน์การความต้องการจัดเก็บข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาลในยุคดิจิทัล และทรัพย์สินที่เข้าลงทุนยังอยู่ในสภาพที่ดี
ทั้งนี้ กองทรัสต์ INETREIT มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อรอบปีบัญชี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว และยังมีโอกาสขยายการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยได้รับสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 เฟส 3 และ เฟส 4 และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลอื่นๆของ INET ในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 64)
Tags: INETREIT, กองทรัสต์, พรวิภา ตั้งตรงจิตร, พรวิสาข์ มังกิจ, หุ้นไทย, อภิชาติ เนตรจรัสแสง, ไอซีที, ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์