นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ทดสอบด่าน 1,550 หากไม่ผ่านอาจเผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมา ส่วนแรงขับเคลื่อนหลักอยู่ที่กำไรบริษัทจดทะเบียน ท่ามกลางโควิดในประเทศยังหนักติดเชื้อพุ่งนิวไฮทะลุ 2 หมื่นราย และเงินบาทอ่อนค่า ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบยังเผชิญโควิดระบาดเช่นกัน ทิศทางตลาดบ้านเรายังแกว่งแคบจนกว่ามีสัญญาณชัดเจน คาดเลือกลงทุนเฉพาะตัวเน้นกำไรดี อย่างกลุ่มส่งออก, ขนส่ง, เดินเรือ แนะติดตามประชุม กนง.วันนี้ ให้แนวรับ 1,530 แนวต้าน 1,550-1,560 จุด
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ต่อทดสอบแนว 1,550 จุด แต่หากยังไม่ผ่านก็อาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรสลับออกมา โดยมีกำไรของบริษัทจดทะเบียนเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ท่ามกลางแรงกดดันจากโควิดยังหนักวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 20,000 รายทำนิวไฮ ขณะที่เงินบาทยังอ่อนค่า
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เพราะยังเผชิญกับโควิดที่ยังระบาดหนักเช่นกัน ทำให้เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนคงจะยังอยู่ทางฝั่งสหรัฐและยุโรป
ทิศทางตลาดบ้านเราคงจะแกว่งแคบจนกว่าจะมีสัญญาณชัดเจน คาดว่านักลงทุนจะเลือกลงทุนเฉพาะตัว เน้นกลุ่มกำไรดี อย่างกลุ่มส่งออก, ขนส่ง, เดินเรือ ซึ่งได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าด้วย
วันนี้ยีงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.), การทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ ตลาดฯ เชื่อว่าจะออกมาลดลง
พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,560 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ส.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,116.40 จุด เพิ่มขึ้น 278.24 จุด (+0.80%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,423.15 จุด เพิ่มขึ้น 35.99 จุด (+0.82%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,761.29 จุด เพิ่มขึ้น 80.23 จุด (+0.55%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,442.94 จุด ลดลง 5.05 จุด (-0.15%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,612.90 จุด ลดลง 28.93 จุด (-0.10%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,161.83 จุด ลดลง 32.99 จุด (-0.13%)
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ส.ค.) 1,540.51 จุด เพิ่มขึ้น 15.40 จุด (+1.01%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 538.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ส.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ส.ค.) ปิด 70.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ส.ค.) อยู่ที่ 3.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.02 แนวโน้มอ่อนค่าหลังตัวเลขโควิดในปท.พุ่งสูง รอประชุมกนง.บ่ายนี้
- กระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยสถิติ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เดือนแรก สร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเฉียด 2 พันล้านบาท นักท่องเที่ยวกว่า 1.4 หมื่นคน ใช้จ่ายเฉลี่ยเกือบ 6 หมื่นบาทต่อทริป สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ลุ้นไตรมาส 4 ภูเก็ตพลิกสถานการณ์ฝ่าวิกฤติยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง นักท่องเที่ยวไทย-เทศ 2-3 แสนคน/เดือน ดันจำนวน-รายได้ท่องเที่ยวฟื้น 20%
- สมาคมตราสารหนี้ไทย คาดหุ้นกู้ออกหลังจากนี้หากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันขายยาก เหตุโควิดส่งผลนักลงทุนระวังการลงทุน หวั่นชำระคืนหนี้ไม่ได้ ยันยังไม่เห็นสัญญาณหุ้นกู้ดีฟอลต์
- FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 64.37 จุด ลดต่ำสุดรอบ 9 เดือน เข้าสู่ภาวะ “ซบเซา” หลังโควิดรุนแรงขึ้น คาดเปิดประเทศไม่ได้ปีนี้ แนะรัฐออก 3 มาตรการเร่งด่วน อัดฉีดเม็ดเงินมากขึ้น-รวดเร็ว หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้หากคุมโควิดในไตรมาส 3 หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหนุนดัชนีขึ้นแตะ 1,600 จุด
- ฝ่ายค้านร้าวก่อนรบ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ขบเหลี่ยมปมแปรญัตติ ตัดงบฯ 1.6 หมื่นล้านโปะงบฯกลาง คนเพื่อไทยดาหน้าโต้ฮั้ว กมธ.ซีกรัฐบาลตีเช็คเปล่าให้นายกฯ “ประเสริฐ” เสียงเขียวอดกลั้นรักษาเอกภาพพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซัดพูดจริงไม่รอบด้าน แต่สื่อสารโซเชียลจนสับสน “จิรายุ-ยุทธพงศ์” หวดไม่แฟร์เล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์ “ภูมิธรรม” อัดหยุดบั่นทอนโยนขี้ใส่เพื่อน “ศิริกัญญา” แฉงบฯกลางยอดแย่ ฉายตัวอย่าง สธ.ขอ 1.2 หมื่นล้านไม่บอกเลยใช้ทำอะไร นายกฯพร้อมสู้ศึกซักฟอกแจงทุกเม็ด อุ่นใจพรรคร่วมฯกอดคอลุยต่อ
- ศาลให้ประกันตัว “ไผ่ ดาวดิน” กับพวกรวม 31 คน ตีราคาคนละ 1 แสน หลังตร. สน.ทุ่งสองห้องยื่นฝากขัง ขณะที่กลุ่มประชาชนปกป้องสถาบัน ยื่นอธ.ศาลอาญาสั่งถอนประกัน “รุ้ง-ไผ่-อานนท์-เพนกวิน” ร่วมม็อบก่อความวุ่นวาย “ไฮโซลูกนัท” นัดคาร์ม็อบ บช.น. เตือนแกนนำ-ผู้ชุมนุมม็อบหน้าหอศิลป์ ผิด 5 พ.ร.บ. จับกุมกลุ่มคาร์มอบดำเนินคดีไปแล้ว 11 ราย ขณะที่ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ รวมตัวหน้าหอศิลป์ฯ เพื่อเรียกร้อง “บิ๊กตู่” ลาออก พร้อมนัดใหม่ 7 ส.ค. ทวงถามข้อเสนอลดงบสถาบันฯ เพื่อนำไปใช้กู้วิกฤตโควิด
หุ้นเด่นวันนี้
- KCE (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 83 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/64 เติบโตทั้ง qoq และ yoy มี Sentiment บวกเงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่ปี 65 และปี 66 มี Growth Story จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีกว่า 45%
- NER (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 9 บาท กำไร Q2/64 ที่เราคาด 400 ลบ. +9% Q-Q, +78% Y-Y ทำ New High มีโอกาสจะออกมาดีกว่าคาดจากปริมาณขายที่โตแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่คำสั่งซื้อปัจจุบันยาวถึง Q4/64 แล้ว โดยคาดกำไรปี 2564 โตราว 1 เท่าตัวจากปีก่อนเป็น 1.7 พันลบ. ขณะที่ด้าน Valuation ยังถูกมาก เทรด PE เพียง 8 เท่าและให้ Dividend Yield 5%
- MCS (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 19.80 บาท แนวโน้มกำไร Q2/64 จะกลับมาเติบโต QoQ, YoY ได้ดี จากการส่งมอบงานที่สูงและงานที่ค้างมาจาก Q1/64 อย่างไรก็ตาม %GPM อาจจะลดลงจาก Q1/64 เนื่องจากมีการขายจากโรงงานในจีนมากขึ้น ทิศทางใน H2/64 ยังไปได้ต่อจากแผนส่งมอบงานมากขึ้น นอกจากนี้ผู้บริหารยังเดินหน้าเซ็นสัญญาใหม่ต่อเนื่อง ทำให้ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ราว 1 แสนตัน และกำลังบินไปเจรจารับงานเพิ่มที่ญี่ปุ่นอีก 3 โครงการซึ่งงานส่วนใหญ่จะเป็นงาน S-Grade ที่มีมาร์จิ้นดี รองรับไปถึงปี 66 ขณะที่การส่งมอมงานจะไม่สะดุดแม้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ด้าน Valuation ปัจจุบันยังไม่แพง PER ประมาณ 7.5 เท่า และคาดหวัง Div.Yield ราว 6-7%
- GUNKUL (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 5.00 บาท รับรายได้จากโรงไฟฟ้าโซล่าร์ที่เวียดนาม 100 MW เต็มปี ด้านธุรกิจใหม่กัญชงบริษัทมีเงินทุนและที่ดินพร้อมพัฒนา พร้อมคาดรายได้ปี 64 โต 20% ตามเป้า ทยอยรับรู้รายได้จากงาน EPC เพิ่มขึ้น ในช่วง 2H21 จะเข้าสู่ Hi Season ของธุรกิจพลังงานลม และประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 2.2 พันลบ. และ 2.4 พันลบ. -33.5%YoY, +9%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, หุ้นไทย