นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอลุ้นผลประกอบการทั้งปีจะสามารถทำกำไรได้ หากรัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ได้เร็ว เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าปีก่อน และเน้นขยายสาขานอกพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเกือบ 100 สาขา ภายใต้แบรนด์เขียง และแบรนด์ตำมั่ว
รวมไปถึงการนำแบรนด์ ZEN แบรนด์ AKA และอื่นๆออกมาทำพื้นที่ครัวกลางนอกพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะหนุนให้รายได้จากการขายผ่านเดลิเวอรี่เติบโตกว่า 1 เท่าตัว หรือมีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 250 ล้านบาท
สำหรับร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าเขตพื้นที่สีแดง ขณะนี้ยังคงปิดให้บริการทั้งหมด แต่เน้นการออกมาใช้พื้นที่นอกห้างสรรพสินค้าทดแทน ซึ่งช่วยให้สามารถลดต้นทุนค่าเช่าลงได้ โดยบริษัทจะกลับมาเปิดให้บริการสาขาในห้างสรรพสินค้าอีกครั้งต่อเมื่อภาครัฐผ่อนคลายมาตรการให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้แล้วเท่านั้น ส่วนร้านในห้างสรรพสินค้านอกพื้นที่สีแดงยังคงเปิดทำการปกติ
สำหรับทิศทางผลประกอบการไตรมาส 3/64 ยอมรับว่าจะลดลงทำจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากผลกระทบจากสถานการร์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และภาคัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วในช่วงไตรมาส 4/64 เนื่องจากปัจจุบันเริ่มมีการกระจายตัวของวัคซีนที่มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศอย่าง กทม.มีการกระจายวัคซีนไปแล้วมากกว่า 70-80%
“ตอนแรกทางห้างสรรพสินค้าได้แจ้งมาว่าจะให้สามารถเปิดได้หลังจากที่มีข่าวลือเตรียมพิจารณาให้สามารถสั่งอาหารจากที่หน้าร้านกลับบ้านได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการแจ้งมาว่าให้ใช้มาตรการเดิม เราก็ต้องมาติดตามกันว่าจะมีมาตรการต่อไปอย่างไร ซึ่งเราอยากจะขอให้ภาครัฐช่วยเหลือร้านอาหารทั้งค่าสารธารณูปโภค ค่าเช่า และภาษี ซึ่งจะมาแบ่งเบาภาระได้มาก”นายบุญยง กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 64)
Tags: AKA, ZEN, ธุรกิจร้านอาหาร, บุญยง ตันสกุล, ผลประกอบการ, เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป