สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวยอมรับว่า โครงการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยของกัมพูชาได้ประสบความล้มเหลว หลังจาก KrisEnergy ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของสิงคโปร์ ประสบภาวะล้มละลาย
“เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 เราได้ประกาศว่ากัมพูชาสามารถผลิตน้ำมันหยดแรกของประเทศ แต่ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้ประสบความล้มเหลว”
สมเด็จฮุนเซนกล่าว
“โครงการดังกล่าวผลิตน้ำมันได้เพียง 1,000 บาร์เรล/วัน ต่ำกว่าที่คาดว่าจะได้ 7,500 บาร์เรล/วัน และขณะนี้ KrisEnergy ก็ได้ล้มละลายแล้ว และเรือขนส่งน้ำมันที่ได้บรรทุกน้ำมันที่ผลิตได้ก็ได้แล่นหนีไปแล้วเพราะเราสกัดไว้ไม่ทัน โดยเรือได้แล่นเข้าสู่น่านน้ำของไทย”
สมเด็จฮุนเซนกล่าว
ทั้งนี้ KrisEnergy ประกาศล้มละลายในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผลิตน้ำมันไม่ได้ตามเป้า ทำให้ไม่มีรายได้ที่จะชดใช้หนี้ของบริษัท
ก่อนหน้านี้ สมเด็จฮุนเซนแถลงในวันที่ 29 ธ.ค.2563 ว่า กัมพูชาสามารถผลิตน้ำมันในเชิงพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรกจากการขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย
“การเริ่มผลิตน้ำมันในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อกัมพูชา และเป็นก้าวแรกของกัมพูชาในการสร้างอุตสาหกรรมพลังงาน, น้ำมันและก๊าซในประเทศ ในวันนี้ กัมพูชาได้กลายเป็นประเทศเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันได้ ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของกัมพูชา”
สมเด็จฮุนเซนกล่าว
สมเด็จฮุนเซนกล่าวเมื่อปลายปีที่แล้วว่า หลังจากผ่านความล่าช้ามาหลายปี KrisEnergy ก็สามารถผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกจากแหล่ง Block A ในอ่าวไทย ซึ่งอยู่ห่างจากสีหนุวิลล์ราว 160 กิโลเมตร
ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาและ KrisEnergy ได้ลงนามข้อตกลงในปี 2560 เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำมันดังกล่าว โดย KrisEnergy ถือหุ้น 95% ในโครงการ ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาถือหุ้น 5%
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการขุดเจาะน้ำมันใน 5 แหล่ง โดยตั้งเป้าที่จะผลิตน้ำมัน 7,500 บาร์เรล/วัน หรือ 2.73 ล้านบาร์เรล/ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 64)
Tags: กัมพูชา, สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน, อ่าวไทย, โครงการขุดเจาะน้ำมัน