นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ไม่แนะนำลงทุนระยะสั้นในตลาดหุ้นไทย โดยยังคงต้องติดตามการกระจายวัคซีน และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าจะสามารถควบคุมได้มากแค่ไหน และจะสามาถรเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน
แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นการลงทุนในระยะยาวมองว่าเป็นจังหวะที่ดี โดยเฉพาะสำหรับการลงทุนใน SSF และ RMF เน้นหุ้นกลุ่มการเงิน ก่อสร้าง โดยมองการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วงที่เหลือของปี 64 ในกรอบ 1,480-1,600 จุด
นายจิติพล กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 3/64 ยังมีความผันผวนและไม่แน่นอนค่อนข้างมาก จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจแม้ว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ แต่การกระจายวัคซีนอาจไม่ได้ดีตามที่เคยคาดการณ์ ทำให้สภาวะเศรษฐกิจยังมีจุดอ่อนในการลงทุน
ทั้งนี้ มองว่าในไตรมาสที่ 3/64 ประเทศไทยมีโอกาสเห็นยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดแตะระดับ 20,000-25,000 รายต่อวัน ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 33.3-33.5 บาท/ดอลลาร์ และหลังจากนั้นยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลง และค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ โดยคาดหวังจะเห็นค่าเงินบาทช่วงปลายปี 64 ต่ำกว่า 32 บาท/ดอลลาร์หากเริ่มกลับมาเดินทางระหว่างประเทศได้
ขณะที่ตลาดหุ้นในฝั่งภูมิภาคเอเชียยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยมีตลาดที่น่าสนใจได้แก่ ตลาดสิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนดี จากประโยชน์วัฏจักรเศรษฐกิจขาขึ้น และมองหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป (ตลาดเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว หรือ DM) จะเป็นตลาดที่เข้าลงทุนเพื่อความปลอดภัยได้
นายจิติพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสที่จะปรับฐาน จึงแนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนหุ้น และกระจายการลงทุนไปในทั้งสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตร และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์และทองคำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 64)
Tags: SET, SET Index, จิติพล พฤกษาเมธานันท์, ตลาดหุ้นไทย, บลจ.ยูโอบี, หุ้นไทย