นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงนี้ กระทรวงสาธารณสุขเน้นฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง อาทิ ใน กทม. ปริมณฑล สมุทรสาคร เป็นต้น เพื่อควบคุมโรค ซึ่งในเดือนส.ค. การฉีดวัคซีนของ กทม.จะตามเป้าหมาย คือ 50% ของประชากร และผู้สูงอายุ 70%
โดยต่อจากนี้ จะเน้นการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้เกิดความครอบคลุม โดยให้ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพต่างๆ สำรวจและติดตามแผนการฉีดวัคซีนของแต่ละจังหวัดในเขตสุขภาพ เพื่อให้กรมควบคุมโรคได้จัดสรรวัคซีนให้ตามคำขอ โดยกำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนใน 13 จังหวัดสีแดงเข้มให้ได้ 70% ของประชากรเป้าหมาย ส่วนจังหวัดอื่นๆ ครอบคลุม 50% โดยเน้น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ทั้งชาวไทย และต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน รวมถึงกลุ่ม อสม.
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้บริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่กำลังเข้ามา จะกระจายไปให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทุกจังหวัด และใน 13 จังหวัดสีแดงเข้มที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และจะได้ติดตามผลการฉีดวัคซีนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข, ฉีดวัคซีน, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, เกียรติภูมิ วงศ์รจิต, โควิด-19